ทั้งนี้ ณ เวลา 08.35 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 1.3% แตะระดับ 1.5471 ดอลลาร์สหรัฐ และแข็งค่าขึ้น 0.9% แตะระดับ 84.52 ยูโร
ส่วนเงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.3% แตะที่ 99.20 เยนต่อดอลาร์ หลังจากกระทรวงการคลังญี่ปุ่นระบุว่า นักลงทุนญี่ปุ่นเทขายตราสารหนี้ในต่างประเทศเป็นสัปดาห์ที่ 6 จนถึงวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา
สกุลเงินปอนด์ทะยานขึ้นแข็งแกร่ง หลังจาก ONS เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอังกฤษในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัว 0.3% เทียบกับช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้ว และปรับตัวขึ้น 0.6% จากช่วงเดียวกันของปี 2555
ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจของอังกฤษสามารถรอดพ้นจากภาวะถดถอยได้ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่รัฐบาลจะยังคงเดินหน้าแผนรัดเข็มขัดต่อไป นอกจากนี้ ONS ระบุว่าภาคบริการเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยผลักดันจีดีพีให้ขยายตัว โดยภาคบริการเติบโต 0.6% ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ จากการปรับตัวแข็งแกร่งของธุรกิจค้าปลีก ร้านอาหารและโรงแรม
ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง แม้ว่ากระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 เม.ย.ลดลง 16,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 339,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงมาอยู่ที่ระดับ 351,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 352,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัว
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย.ในวันศุกร์หน้า ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.จะเพิ่มขึ้น 88,000 ราย หลังจากที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 268,000 รายในเดือนก.พ.