ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5443 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.5267 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.0297 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0284 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3016 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3022 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 99.34 เยน จากระดับ 99.50 เยน และอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9453 ฟรังค์ จากระดับ 0.9467 ฟรังค์
สกุลเงินปอนด์ทะยานขึ้นแข็งแกร่ง หลังจาก ONS เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอังกฤษในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัว 0.3% เทียบกับช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้ว และปรับตัวขึ้น 0.6% จากช่วงเดียวกันของปี 2555
ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจของอังกฤษสามารถรอดพ้นจากภาวะถดถอยได้ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่รัฐบาลจะยังคงเดินหน้าแผนรัดเข็มขัดต่อไป นอกจากนี้ ONS ระบุว่าภาคบริการเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยผลักดันจีดีพีให้ขยายตัว โดยภาคบริการเติบโต 0.6% ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ จากการปรับตัวแข็งแกร่งของธุรกิจค้าปลีก ร้านอาหารและโรงแรม
ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง แม้ว่ากระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 เม.ย.ลดลง 16,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 339,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงมาอยู่ที่ระดับ 351,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 352,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัว
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย.ในวันศุกร์หน้า ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.จะเพิ่มขึ้น 88,000 ราย หลังจากที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 268,000 รายในเดือนก.พ.
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 1/2556 ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจีดีพีจะขยายตัว 3.0% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2012 ที่ขยายตัวเพียง 0.4%