โดยการลงทุนภาพรวมมีการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 610 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 275,000 ล้านบาท จำนวนโครงการขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 38 และมูลค่าเงินลงทุนขยายตัวร้อยละ 24 (ไตรมาสแรกปี 2555 มียื่นขอรับส่งเสริม 443 โครงการ เงินลงทุนรวม 221,200 ล้านบาท
โครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค ยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 137 โครงการ เงินลงทุนรวม 90,700 ล้านบาท รองลงมาเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร ยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 179 โครงการ เงินลงทุนรวม 73,000 ล้านบาท อันดับสาม คือ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ โลหะ เครื่องจักร ยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 124 โครงการ เงินลงทุนรวม 65,500 ล้านบาท
สำหรับโครงการขนาดใหญ่ที่ยื่นขอรับส่งเสริมในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ แต่ละโครงการมีมูลค่ามากกว่า 10,000-20,000 ล้านบาท ประกอบด้วย กิจการโรงไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ กิจการผลิตชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม กิจการขนส่งทางอากาศ 2 โครงการ และกิจการผลิตรถปิกอัพ
ส่วนโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่ามากกว่า 2,000-6,000 ล้านบาท ได้แก่ กิจการโรงไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ กิจการผลิตเครื่องดื่มจากผักผลไม้ กิจการผลิตสิ่งปรุงแต่งอาหาร กิจการผลิตเคมีภัณฑ์ กิจการผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ กิจการเลี้ยงสัตว์ และกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น
ขณะที่การลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ หรือ FDI (Foreign Direct Investment) ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ก็ขยายตัวเช่นกัน โดยมีการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 338 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 เมื่อเทียบกับจำนวนโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมในช่วงเดียวกันของปี 2555 ซึ่งมีจำนวน 312 โครงการ ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนของโครงการลงทุนจากต่างประเทศในไตรมาสแรกของปีนี้ มีมูลค่ารวม 157,671 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.5 เมื่อเทียบกับมูลค่าเงินลงทุนในไตรมาสแรกของปี 2555 ซึ่งมีมูลค่า 134,151 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.5 เป็นการขยายการลงทุนของโครงการเดิมที่ลงทุนอยู่ในประเทศไทยแล้ว มีจำนวน 208 โครงการ เงินลงทุนรวม 134,990 ล้านบาท และเป็นโครงการลงทุนรายใหม่จำนวน 130 โครงการ เงินลงทุนรวม 22,681 ล้านบาท
โครงการลงทุนต่างชาติที่ยื่นขอรับส่งเสริมในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จำนวนมากที่สุด คือ โครงการลงทุนจากญี่ปุ่น ยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 176 โครงการ เงินลงทุนรวม 87,483 ล้านบาท รองลงมาเป็นการลงทุนจากมาเลเซีย 11 โครงการ เงินลงทุน 16,608 ล้านบาท อันดับ 3 คือ การลงทุนจากฮ่องกง จำนวน 10 โครงการ เงินลงทุน 15,232 ล้านบาท อันดับ 4 การลงทุนจากเนเธอร์แลนด์ 8 โครงการ เงินลงทุน 8,309 ล้านบาท อันดับ 5 การลงทุนจากสิงคโปร์ 20 โครงการ เงินลงทุน 5,385 ล้านบาท