Analysis: นายกฯญี่ปุ่นเยือนรัสเซียหวังเชื่อมสัมพันธ์ท่ามกลางความขัดแย้งเรื่องหมู่เกาะ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday April 30, 2013 11:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นได้เดินทางถึงยังกรุงมอสโควเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นนายกฯญี่ปุ่นคนแรกที่ได้เดินทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการในรอบ 10 ปี เพื่อที่จะหาทางฟื้นการเจรจาที่ชะงักงันเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องดินแดน และโอกาสในการร่วมมือด้านธุรกิจ

ก่อนหน้าที่จะออกเดินทางนั้น นายกฯญี่ปุ่นให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิตาร์ทัสของรัสเซียว่า ตนเองต้องการที่จะสร้างความเชื่อมั่นส่วนบุคคลกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย รวมทั้งคลี่คลายข้อพิพาทด้านเขตแดนที่ยืดเยื้อในเรื่องหมู่เกาะทั้ง 4 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในเชื่อหมู่เกาะคูริลในรัสเซีย และตั้งอยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น

รัสเซียและญี่ปุ่นต่างอ้างกรรมสิทธิในหมู่เกาะทั้ง 4 มาตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสหภาพโซเวียตดได้เข้ามายึดครอง

หมู่เกาะเหล่านี้ล้อมรอบไปด้วยแหล่มประมูงที่สมบูรณ์ บ่อน้ำมัน แก็สธรรมชาติ และแหล่งแร่ที่สมบูรณ์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นที่ต้องการของทั้ง 2 ประเทศ

เมื่อญี่ปุ่นยังคงเห็นว่า หมู่เกาะทั้ง 4 แห่งเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของประเทศ แต่ผู้นำรัสเซียได้ย้ำว่า หมู่เกาะดังกล่าวเป็นเขตแดนเชิงยุทธศาสตร์ของรัสเซีย

ข้อพิพาทด้านดินแดนทำให้ทั้ง 2 ประเทศ ไม่สามารถแม้แต่จะลงนามในสนธิสัญญาณสันติภาพหลังสงครามได้

ญี่ปุ่นและรัสเซียแทบจะไม่ได้มีความคืบหน้าเท่าไรนักในประเด็นเรื่องข้อพิพาทด้านดินแดนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ญี่ปุ่นได้ร้องขอให้รัสเซียรับทราบเรื่องความเป็นเจ้าของของหมู่เกาะทั้ง 4 แห่งของญี่ปุ่น และเมื่อปี 2554 ญี่ปุ่นเปิดเผยว่า จะต่อต้านโครงการพัฒนาของรัสเซียในบริเวณหมู่เกาะข้อพิพาทในแปซิฟิคที่ไม่ได้รับความยินยอมจากทางญี่ปุ่น

นายกรัฐมนตรีดิมิทรี เมดเดเวฟ แห่งรัสเซียได้เดินทางเยือนเกาะคูนาชีร์ถึง 2 ครั้ง เมื่อปี 2553 และ 2555 ซึ่งเกาะดังกล่าวมีชื่อว่าคูนาชิรีในภาษาญี่ปุ่น แม้ว่าสภาพอากาศในบริเวณดังกล่าวยากที่จะคาดการณ์รวมถึงปกิกริยาจากรอบข้างที่ยากจะคาดเดา โดยนายกฯเมดเดเวฟถือเป็นผู้นำรัสเซียคนแรกที่ได้เดินทางเยือนหมู่เกาะข้อพิพาท

การเดินทางเยือนของนายเมดเดเวฟถูกมองว่า เป็นการแสดงเจตจำนงค์ ขณะที่ญี่ปุ่นมองว่าเป็นการกระทำที่สบประมาท

ในขณะที่ความหวังให้ข้อพิพาทด้านดินแดนมีความคืบหน้า ญี่ปุ่นและรัสเซียอาจจะประสบความสำเร็จในเรื่องเศรษฐกิจก็เป็นได้

เนื่องจากนายอาเบะได้เดินทางเยือนมอสโคว์พร้อมกับผู้บริหารบริษัทต่างๆกว่า 100 ราย ซึ่งมีทั้งผู้บริหารแบงก์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ และการเกษตร

เมื่อปีที่แล้ว รัสเซียและญี่ปุ่นซึ่งต้องการแหล่งพลังงานอย่างมากได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นที่จะสร้างโรงงานผลิตแก็สเหลวธรรมชาติในเมืองวลาดิวอสโตกา

ทั้ง 2 ประเทศคาดว่า จะบรรลุข้อตกลงเพิ่มเติม โดยฝั่งญี่ปุ่นจะมีส่วนร่วมในการสร้างท่อแก็สและศูนย์กลางด้านแก็สในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศรัสเซีย ซึ่งไม่มีประชากรมากนัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ