ทั้งนี้ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท.ได้ทำจดหมายตอบกลับมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาโดยระบุว่า ในฐานะผู้ว่าฯ ธปท.ไม่มีอำนาจก้าวก่ายการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) แต่ ธปท.มีความเป็นห่วงว่าหากลดดอกเบี้ยนโยบายแล้วอาจจะมีผลต่ออัตราสินเชื่อในตลาด และจะส่งผลให้อสังหาริมทรัพย์มีราคาสูงขึ้นมาก
นอกจากนั้น ธปท.พบว่าการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา เป็นเพราะมีเงินทุนไหลเข้ามาในตลาดพันธบัตรเป็นหลัก โดยสมมติว่าหากเงินทุนไหลเข้ามา 8 พันล้านดอลลาร์ จะมีเข้ามาในตลาดหุ้นเพียง 500 ล้านดอลลาร์ ส่วนที่เหลืออยู่ในตลาดพันธบัตร หรือคิดเป็นเงินทุนที่ไหลเข้ามาในตลาดพันธบัตรเป็นจำนวน 8 เท่าของตลาดหุ้น
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวด้วยว่า นายกิตติรัตน์ยังได้รายงานผลการหารือระหว่างผู้ส่งออกกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรมว่า ภาวะเงินบาทแข็งค่าในขณะนี้ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกโดยเฉพาะคำสั่งซื้อลดลง ซึ่งอาจทำให้การส่งออกของไทยในปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะขยายตัว 8-9% โดยปัจจุบันการส่งออกไตรมาสแรกเติบโตได้เพียงกว่า 4% เท่านั้น
อย่างไรก็ดี ภายหลังจากการรายงานของนายกิตติรัตน์แล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้รัฐมนตรีในกระทรวงที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม หามาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและผู้ส่งออกเป็นการเฉพาะหน้า เพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหายมากไปกว่านี้
ปลัดกระทรวงการคลัง คาดว่า ในการประชุม กนง.นอกรอบช่วงบ่ายวันนี้อาจจะมีการนำประเด็นข้อห่วงใยการแข็งค่าของเงินบาทที่ได้จากการประชุม ครม.วันนี้เข้าไปมีส่วนในการพิจารณาด้วย