ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2556 มียอดคงค้างเงินให้สินเชื่อ 65,933 ล้านบาท เพิ่มขึ้น1,562 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.43 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) จำนวน 3,598 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน NPLs ต่อยอดคงค้างเงินให้สินเชื่อเท่ากับร้อยละ 5.46
ช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2556 EXIM BANK ได้อนุมัติวงเงินหมุนเวียนเพื่อสนับสนุนการส่งออก-นำเข้าให้แก่ผู้ประกอบการทั้งสิ้น 2,830 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินแก่ผู้ส่งออก SMEs 1,749 ล้านบาท และมีปริมาณธุรกิจสะสมจากธุรกรรมการส่งออกและนำเข้าจำนวน 31,329 ล้านบาท โดยมียอดคงค้างสินเชื่อหมุนเวียนระยะสั้นที่ 14,397 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 1,269 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลดลงของลูกค้าขนาดใหญ่ ในขณะที่มีการเพิ่มขึ้นของลูกค้าขนาดเล็กหรือ SMEs เนื่องจาก ธนาคารมุ่งสนับสนุนนโยบายรัฐบาลมากขึ้น ทำให้ต้องปรับโครงสร้างลูกค้ามาเน้นลูกค้า SMEs ซึ่งมีวงเงินต่อรายน้อยกว่ากลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่
ด้านสินเชื่อโครงการลงทุน ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อรวมจำนวน 3,478 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโครงการลงทุนในประเทศด้านต่างๆ อาทิ พลังงานและพลังงานทดแทน โลจิสติกส์ โครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค และการขยายกำลังการผลิตของผู้ประกอบการ โดยส่วนหนึ่งเป็นวงเงินอนุมัติสนับสนุนมาตรการทางการเงินเพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจพาณิชยนาวีตามที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลัง เพื่อพัฒนากองเรือไทยให้เข้มแข็งขึ้นในระยะยาว จำนวน 544 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังอนุมัติวงเงินสนับสนุนโครงการในต่างประเทศให้แก่นักลงทุนไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว พม่า และเวียดนาม) ทำให้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2556 ธนาคารมียอดคงค้างสินเชื่อระยะกลางและระยะยาวที่ 51,536 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2,831 ล้านบาท
ธนาคารได้อนุมัติวงเงินรับประกันการส่งออกให้แก่ผู้ส่งออกจำนวน 701 ล้านบาท เพื่อช่วยป้องกันความเสี่ยงให้แก่ผู้ส่งออกไทยจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศซึ่งอาจเกิดจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ส่งออกในการขยายการส่งออกไปยังตลาดเดิมและตลาดใหม่มากขึ้น โดยไตรมาสแรกปี 2556 มีมูลค่าส่งออกภายใต้การรับประกันของ EXIM BANK จำนวน 25,052 ล้านบาท และมียอดภาระผูกพันการรับประกันการส่งออกเท่ากับ 46,915 ล้านบาท