ข้อเรียกร้องประกอบด้วย 1.ขอให้ยกเลิกการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันรอบที่ 2 และเสนอให้ภาครัฐยึดถือทะเบียนเกษตรกรที่มีอยู่แล้ว จากฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรของกรมส่งเสริมเกษตรกรในรอบแรกเป็นหลัก โดยให้พิจารณาช่วยเหลือผลผลิตของเกษตรกรทุกรายตามทะเบียนเกษตรกรดังกล่าว รายละไม่เกิน 50 ไร่
2.ขอให้รัฐทบทวนมาตรการในการแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันในปัจจุบัน และเสนอแนวทางให้รัฐพิจารณาช่วยเหลือชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรโดยตรง เพื่อให้เกษตรกรได้รับราคาผลปาล์มในอัตรากิโลกรัมละ 4 บาทที่ 17% ตามมติคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ส่วนราคาน้ำมันปาล์มให้เป็นไปตามกลไกตลาด เพื่อให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มและโรงกลั่นน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ
3.ขอให้ชดเชยส่วนต่างราคาปาล์มน้ำมันผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เพื่อให้ถึงมือเกษตรกรทุกราย 4.ขอให้เร่งดำเนินการนโยบายด้านพลังงาน เพื่อใช้น้ำมันปาล์มภายในประเทศมากขึ้น โดยเพิ่มการผลิตไบโอดีเซลจากชนิด B5 เป็น B7 และผลิต B10 เพื่อใช้ร่วมกับเครื่องจักรกลการเกษตร รวมทั้งสนับสนุนการใช้น้ำมันปาล์มทดแทนน้ำมันเตาเพื่อผลิตไฟฟ้า
5.ขอให้กำหนดนโยบายเพื่อลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ซึ่งจะมีขีดความสามารถในการแข่งขันและเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนลดต้นทุนปัจจัยการผลิตในการปลูกปาล์ม เช่น ค่าพันธุ์ปาล์ม ค่าปุ๋ย และอื่นๆ และ 6.ขอให้ควบคุมการนำเข้า รวมทั้งเข้มงวดป้องกันการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ปาล์มที่เกิดจากการสกัดน้ำมันปาล์มทุกชนิด
ด้านนายสุภรณ์ กล่าวว่า จะรีบนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อนายกรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุด และหากมีความคืบหน้าจะแจ้งไปยังสภาเกษตรกรแห่งชาติให้ทราบทันที