ทั้งนี้ เมื่อเวลา 13.26 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 129.28 เยน และแข็งค่าขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ 1.3198 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินเยนร่วงลง 0.6% มาอยู่ที่ระดับ 97.98 เยนต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ อีซีบีมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 0.50% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอของกลุ่มประเทศยูโรโซน โดยล่าสุดดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้นแตะ 46.7 จาก 46.8 ในเดือนมี.ค. แต่ดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตในภูมิภาคยังคงหดตัวต่อเนื่อง
ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25% ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ (1 พ.ค. ) พร้อมกับย้ำว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปและจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน จนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงต่ำกว่าระดับ 6.5% และจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 2.5%
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 เม.ย. ปรับตัวลง 18,000 ราย สู่ระดับ 324,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 345,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มนายจ้างในสหรัฐยังคงมีการจ้างงานแม้ว่าเศรษฐกิจส่งสัญญาณการชะลอตัวก็ตาม
ตลาดการเงินจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.ในวันศุกร์นี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 7.6%