นายอารีพงษ์ ภู่ชอุ่ม ปลัด
กระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนา
เอเชีย (ADB) ครั้งที่ 41 ที่
ประเทศอินเดีย ที่ผ่านมา ที่มีนาย
กิตติรัตน์ ณ ระนอง รอง
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการคลังเข้าร่วมประชุม ในฐานะผู้ว่าการธนาคารพัฒนา
เอเชียของไทย ร่วมด้วยนาย
ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า การประชุมครั้งนี้ ประเทศไทยได้ใช้โอกาสในการชี้แจงถึงโครงการลงทุนโครสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท และการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้นำของประเทศต่างๆ เป็นอย่างมาก โดยในส่วนนี้รอง
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการคลังได้หารือกับผู้นำญี่ปุ่น ถึงมาตรการผ่อนปรนทางการเงิน หรือ QE ของญี่ปุ่น ว่าประเทศใน
เอเชียต่างยอมรับกับแนวทางดังกล่าวของญี่ปุ่นว่ามีผลกระทบต่อเงินไหลเข้า
เอเชียให้มีปริมาณเพิ่มขึ้น ซึ่งประเทศในภูมิภาค
เอเชียจะต้องหามาตราการในการรับมือ เพราะทุกฝ่ายต่างเห็นด้วยกับมาตรการนี้ เพราะในที่สุดแล้วจะทำให้เศรษฐกิจของโลกฟื้นตัวขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกของไทยในอนาคตด้วยเช่นกัน
ในส่วนของประเทศไทย มองว่าเงินลงทุนที่จะเข้ามาเป็นเงินลงทุนโดยตรงที่เข้ามาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลดำเนินการจะส่งดีโดยรวมกับเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน ส่วนการแก้ไขการเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้นต้องขึ้นอยู่กับการดำเนินการของธนาคารแห่งประเทศไทย แต่กระทรวงการคลังจะติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ค่าเงินบาทอยู่ในภาวะทรงตัว
นายอารีพงษ์ ยืนยันการเดินทางไปประชุมครั้งนี้ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าธปท. เป็นไปตามปกติ ทั้ง 2 ฝ่าย ได้มีการหารือถึงประเด็นในการประชุมตามปกติ ไม่มีความขัดแย้งใดๆ
ทั้งนี้ในการประชุม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 5
อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/จารุวรรณ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--