แหล่งข่าวเผย 4 มาตรการธปท.ดูแลบาทแข็งจากเบาไปหนักเน้นการลงทุนในพันธบัตร

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 7, 2013 16:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แหล่งข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เปิดเผยว่า มาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้รายงานต่อกระทรวงการคลังว่าจะเตรียมไว้ใช้ในการดูแลค่าเงินบาทหากมีความจำเป็นนั้นเป็นมาตรการแบบธรรมดาไปจนถึงมาตรการในระดับเข้มงวด ประกอบด้วย มาตรการแรก จะเป็นการกำหนดห้ามนักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรของ ธปท.หรืออาจกำหนดระยะเวลาการถือครองพันธบัตร เพื่อป้องกันการนำเงินเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้น ซึ่งมาตรการดังกล่าว ธปท. สามารถดำเนินการได้เองและเคยดำเนินการมาแล้วในอดีต

มาตรการที่ 2 คือการกำหนดห้ามนักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรระยะสั้นของทั้งรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจที่มีอายุ 3-6 เดือน เพื่อป้องกันการเก็งกำไร, มาตรการที่ 3การจัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมเมื่อนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้และได้ผลกำไร โดยมาตรการนี้จะต้องมีการแก้ไขกฎหมายโดยกระทรวงการคลัง

ส่วนมาตรการที่ 4 เป็นการบังคับให้นักลงทุนต่างชาติป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับเงินลงทุนที่นำเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ เพื่อไม่ให้ได้รับผลตอบแทนจากค่าเงินในเชิงบวก และไม่ต้องรับความเสี่ยงในเชิงลบ โดย ธปท.ยอมรับว่าเป็นแนวทางที่ไม่เคยใช้ในประเทศใดในโลก

สำหรับการบังคับให้กันสำรองเงินทุนนำเข้าระยะสั้น ซี่งเป็นมาตรการที่เคยใช้มาแล้วในสมัย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ดำรงตำนแหน่ง รมว.คลังนั้น ทำให้ตลาดหุ้นในเวลานั้นร่วงลงแรงนับร้อยจุด ซึ่ง ธปท.ไม่คาดว่าจะดำเนินการได้ เพราะเป็นมาตรการที่รุนแรง

แหล่งข่าว เปิดเผยว่า นายกิตติรัตน์ได้กล่าวย้ำในที่ประชุมว่า ธปท.เพียงแต่เสนอมาตรการต่างๆ ที่เตรียมไว้เพื่อให้รับทราบ แต่ไม่ยอมระบุถึงแนวทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซี่งทางกระทรวงคลังมองว่าเป็นมาตรการสำคัญที่สามารถนำมาแก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่าได้ ขณะที่นายวราเทพ รัตนกร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่าตามกฎหมาย กนง.ต้องรายงานผลการประชุมให้คณะรัฐมนตรีรับทราบในทุก 6 เดือน แต่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติควรรายงานให้ที่ประชุม ครม.รับทราบอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทุกหน่วยงานได้ติดตามสถานการณ์และดูแลผู้ประกอบการไม่ให้ได้รับผลกระทบ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ