(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 29.58/59 อ่อนค่าตามภูมิภาค หลังดอลล์มีทิศทางแข็งค่า

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 10, 2013 11:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 29.58/59 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 29.44/46 บาท/ดอลลาร์ และเมื่อเวลา 09.00 น.เงินบาทอยู่ที่ระดับ 29.63/64 บาท/ดอลลาร์ โดยเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค
"เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าตามภูมิภาค currency อื่นๆ ขยับตัวค่อนข้างเยอะหลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่าในช่วงคืนที่ผ่านมา" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้จะอยู่ในกรอบ 29.60-29.70 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 29.6440 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.31633%

*ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.06 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับ 98.66/68 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3040 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับ 1.3144/3148 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 29.4290 บาท/ดอลลาร์
  • นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมประชุมหารือประชุมเรื่องผลกระทบของค่าเงินบาทต่อเศรษฐกิจไทย ในวันที่ 13 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. โดยผู้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ประกอบด้วย คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.), เลขาธิการสำนักหงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.), ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง, ปลัดกระทรวงการคลัง, ปลัดกระทรวงพาณิชย์, อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ, ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานสมาคมธนาคารไทย
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและเงินเยนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(9 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3016 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ระดับ 1.3160 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5429 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5543 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลงมาอยู่ที่ระดับ 1.0056 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0173 ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 100.57 เยน จากระดับ 98.81 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินฟรังค์ที่ระดับ 0.9490 ฟรังค์ จากระดับ 0.9354 ฟรังค์
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) เดือน มิ.ย.ปรับตัวลง 47 เซนต์ แตะที่ 95.92 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ(EIA) เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ค.เพิ่มขึ้น 230,000 บาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.81 ล้านบาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในการซื้อขายเมื่อคืนนี้(9 พ.ค.) เนื่องจากตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลงอย่างเหนือความคาดหมาย เป็นแรงได้กระตุ้นให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย.ร่วงลง 5.1 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 1,468.6 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังเงินเยนอ่อนค่าสู่ระดับ 100 เยน/ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2552 ทำให้บริษัทผู้ส่งออกมีแนวโน้มว่าจะมีรายได้มากขึ้น โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ซื้อขายที่ระดับ 142.61 จุด เมื่อเวลา 9.46 น.ตามเวลาโตเกียว, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 14,449.24 จุด เพิ่มขึ้น 257.76 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,284.38 จุด ลดลง 1.51 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,975.48 จุด ลดลง 3.97 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,434.41 จุด เพิ่มขึ้น 1.63 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,752.26 จุด ลดลง 13.81 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 5,200.00 จุด เพิ่มขึ้น 1.60 จุด
  • กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เผยยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในปีงบประมาณ 2555 หดตัวลง 43.6% จากปีก่อน สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2555 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 4.29 ล้านล้านเยน โดยในเดือน มี.ค.ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดที่กว้างที่สุดเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศอยู่ที่ 1.25 ล้านล้านเยน นับเป็นการเกินดุลเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติของกรีซ(ELSTAT) เผยอัตราว่างงานในเดือน ก.พ.ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 27% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์สถิติใหม่ โดยชาวกรีซเกือบ 2 ใน 3 ซึ่งมีอายุระหว่าง 15-24 ปีไม่มีงานทำ ซึ่งอัตราดังกล่าวเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ที่ ELSTAT ได้เริ่มเปิดเผยข้อมูลรายเดือนในปี 2549

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ