เงินบาทเปิด 29.83/85 อ่อนค่าตามภูมิภาค ติดตามผลหารือคลัง-กนง.-เอกชนนัดพิเศษ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 13, 2013 09:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 29.83/85 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 29.69/71 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทอ่อนค่าตามภูมิภาคหลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังผลการประชุม G7 ก็ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรต่อตลาดเท่าไหร่ และคาดว่ามีแรงเทขายยูโรเข้ามาด้วย หลังตัวเลขเศรษฐกิจของฝั่งยูโรโซนค่อนข้างออกมาดีในช่วงนี้"

นักบริหารเงิน คาดว่า ทิศทางค่าเงินบาทในวันนี้น่าจะแกว่งแคบๆ ในกรอบบวก/ลบประมาณ 15 สตางค์ ส่วนการประชุมเรื่องค่าเงินบาทร่วมกันระหว่างนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเช้าวันนี้ คาดว่าน่าจะเป็นการหารือแนวทางในการดูแลค่าเงินบาทมากกว่า

*ปัจจัยสำคัญ

  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 29.6700 บาท/ดอลลาร์
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.84/86 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่า 101.30/32 เยน/ดอลลาร์ เมื่อเย็นวันศุกร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2971/2974 ดอลลาร์/ยูโร จาก 1.3003/3006 ดอลลาร์/ยูโร เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ผู้บริหารของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และเอกชน 3 สถาบัน คือ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย จะหารือร่วมกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาเงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไป
  • นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 29 พ.ค.นี้ว่า กรอบที่จะใช้พิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบาย กนง.จะพิจารณาภาพรวมของเศรษฐกิจใน 7 ด้าน ซึ่ง ขณะนี้ กนง.กำลังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจไตรมาส 1 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ รวมทั้งการขยายตัวของการส่งออกและการใช้จ่ายภาคเอกชนเดือน เม.ย.รวมถึงการขยายตัวของภาคเศรษฐกิจจริงที่มีโอกาสจะเป็นฟองสบู่ เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ
  • รมว.คลังกลุ่มประเทศ G7 ไม่ได้วิพากษ์วิจารย์นโยบายผ่อนคลายทางการเงินแบบเชิงรุกของญี่ปุ่น ในระหว่างการประชุมที่ประเทศอังกฤษเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่ประชุม G7 ลงมติว่าจะไม่กำหนดเป้าหมายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ, ยังไม่จำเป็นต้องมีแผนการสร้างความแข็งแกร่งด้านการคลังในระยะกลางที่น่าเชื่อถือ, การสร้างความแข็งแกร่งด้านการคลังควรเอื้อต่อการขยายตัว, แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในกลุ่ม G7 ยังคงไม่เท่าเทียบกัน,ผลักดันมาตรการรับมือกับภาคธนาคารที่ประสบปัญหา โดยไม่ต้องผลักภาระให้กับประชาชนผู้เสียภาษี
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเหนือระดับ 102 เยนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2551 ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ หลังจากมีรายงานว่ารมว.คลังกลุ่มประเทศ G7 ไม่ได้วิพากษ์วิจารย์นโยบายผ่อนคลายทางการเงินแบบเชิงรุกของญี่ปุ่น ในระหว่างการประชุมที่ประเทศอังกฤษเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (10 พ.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทเอกชน รวมถึงอาร์เซลอร์มิททัล และบีที กรุ๊ป นอกจากนี้ ยอดส่งออกที่แข่งแกร่งของเยอรมนียังช่วยหนุนตลาดให้ดีดตัวขึ้นด้วย
  • ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นเช้านี้ เนื่องจากหุ้นกลุ่มผู้ส่งออกของญี่ปุ่นทะยานขึ้น หลังเงินเยนอ่อนค่าลงสู่ระดับ 102 เยน/ดอลลาร์
  • นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ยังคืนเงินจากการขายข้าวให้กับธ.ก.ส.ตามแผนที่วางไว้ โดยล่าสุดได้รับการคืนเงินแล้ว 1.1 แสนล้านบาท ซึ่งตามกรอบภายในเดือนก.ย.จะมียอดโอนคืนรวม 1.8 แสนล้านบาท และจนถึงสิ้นปี 2556 มีแผนคืนเงินรวม 2.2 แสนล้านบาท แต่มีหลายฝ่ายกังวลว่าจากปัญหาเงินบาทแข็งค่าอาจกระทบต่อการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ และอาจกระทบต่อเงินที่จะนำมาหมุนเวียนจำนำข้าว ซึ่งนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เรียกประชุมเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เพื่อหารือถึงเรื่องนี้และกำชับให้ธ.ก.ส.รายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ