ด้านนายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI กล่าวว่า รายละเอียดเพิ่มเติมเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นถึงประโยชน์ของการตั้งบริษัทย่อยการบินไทยสมายล์แทนหน่วยธุรกิจแบบปัจจุบัน โดยเปรียบเทียบกับสายการบินอื่น เช่น ซิลค์แอร์, ดราก้อนแอร์ที่ดำเนินการในลักษณะเดียวกันและประสบความสำเร็จ รวมทั้งชี้แจงถึงความสามารถในการปฏิบัติการบินในตลาดของสายการบินไทยสมายล์ที่จะรองรับเส้นทางบินภูมิภาคเป็นหลัก
"สายการบินไทยสมายล์ เป็นสายการบินที่ตั้งขึ้นมาแล้ว แต่ต้นทุนของสายการบินกับสายการบินไทย ยังไม่ชัดเจน ดังนั้นหากต้องการสร้างกำไรในภาพรวมให้สูงขึ้น การแยกต้นทุนต้องชัดเจน" นายสรจักร กล่าว
สำหรับแผนการจัดตั้งบริษัทย่อยการบินไทยสมายล์นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจ้างที่ปรึกษาเพื่อแยกบัญชีต้นทุน ส่วนแผนการใช้เครื่องบินนั้น เครื่องบินแอร์บัสเอ 320-200 จำนวน 6 ลำ ซึ่งใช้งานในปัจจุบัน การบินไทยเป็นผู้เช่าซื้อจะได้ทำสัญญาเช่ากับบริษัทย่อยการบินไทยสมายล์ต่อไปโดยคิดค่าเช่าตามปกติ ขณะที่เครื่องบิน 9 ลำที่อยู่ระหว่างการเตรียมเช่า จะได้โอนให้บริษัทย่อยการบินไทยสมายล์เป็นผู้เช่าตรงต่อไป