นายคิมกล่าวในการประชุม “Annual Global Private Equity Conference" ครั้งที่ 15 ที่จัดโดยบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (IFC) ว่า “งานมีความสำคัญในทุกประเทศ" และเสริมว่าภาคเอกชนช่วยสร้างงานในสัดส่วน 9 ใน 10 ตำแหน่งงาน และแนวโน้มการขยายตัวด้านการจ้างงานที่แข็งแกร่งสามารถช่วยให้สังคมเข้มแข็งขึ้น
ประธานธนาคารโลกกล่าวกับกลุ่มนักลงทุนและผู้สื่อข่าวว่า ธนาคารโลกและภาคเอกชนมี “โอกาสที่ดีเยี่ยม" ในการร่วมมือกันยุติปัญหาความยากจนที่รุนแรงทั่วโลกในปี 2573 และป้องกันไม่ให้ผู้คนกลับไปสู่ความยากจนอีก
นายคิมยังตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ซึ่งรวมถึงอินเดียกำลังเผชิญปัญหาระยะยาวเรื่องข้อจำกัดด้านการระดมทุนในการสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน, การพัฒนาด้านเกษตรกรรม และการสร้างสวัสดิการสังคม ภาคเอกชนจึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างงานและช่วยส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่
นอกจากนี้ นายคิมยังเน้นย้ำถึงความพยายามประสานงานกันในระดับโลกเพื่อลดอัตราความยากจนขั้นรุนแรงให้มาอยู่ที่ 3% ภายในปี 2573 และเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้มีรายได้ต่ำในแต่ละประเทศ สำหรับอัตราความยากจนขั้นรุนแรงนั้นหมายถึงสัดส่วนของประชากรที่ดำรงชีพด้วยรายได้ไม่ถึง 1.25 ดอลลาร์ต่อวัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน