นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยปรับลดคาดการณ์ตัวเลขส่งออกข้าวปีนี้เหลือ 6.5 ล้านตัน และอาจมีสิทธิลดเหลือ 6 ล้านตัน ต่ำสุดในรอบ 12 ปีจากนโยบายรับจำนำข้าว-บาทแข็ง ทำให้ข้าวไทยเสียเปรียบสู้คู่แข่งสำคัญอย่างเวียดนาม พร้อมร้องขอให้รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ร่วมมือกันดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ
* คาดการณ์ส่งออกข้าวไทยปีนี้ 6.5 ล้านตัน ตกเป็นที่ 3 ของโลก
"ปีนี้เราอาจส่งออกข้าวได้เพียง 6.5 ล้านตัน และเผลอๆ อาจเหลือเพียง 6 ล้านตัน ต่ำสุดในรอบ 12 ปี จากปี 55 ที่ส่งออกได้ 6.94 ล้านตัน เนื่องจากผลสืบเนื่องมาจากนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่ทำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งปีที่แล้วเราก็ส่งออกได้ลดลงฮวบเหลือ 6.94 ล้านตันจากปี 54 ที่ส่งออกทะลุ 10 ล้านตันปี แล้วยังมาเจอปัญหาเงินบาทแข็งค่าซ้ำเติมอีก
การแข็งค่าของเงินบาทที่เพิ่มขึ้นทุก 1 บาท/ดอลลาร์ จะทำให้ราคาขายข้าวขาวของไทยเพิ่มขึ้น 20 ดอลลาร์/ตัน และข้าวหอมมะลิเพิ่มขึ้น 40 ดอลลาร์/ตัน"นายชูเกียรติ กล่าว
ปัจจุบัน ข้าวขาว 5% ของไทยมีราคาขายอยู่ที่ 559 ดอลลาร์/ตัน ขณะที่ข้าวขาวชนิดเดียวกันของเวียดนามราคาอยู่ที่ 375 ดอลลาร์/ตัน อินเดีย 440 ดอลลาร์/ตัน ปากีสถาน 425 ดอลลาร์/ตัน สำหรับข้าวหอมมะลิเกรด A ของไทย(55/56) ราคาขายที่ 1,200 ดอลลาร์/ตัน เทียบกับข้าวหอมมะลิของเวียดนามที่ 400-500 ดอลลาร์/ตัน
นายชูเกียรติ กล่าวว่า ราคาข้าวไทยยืนอยู่ที่ระดับนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว แพงกว่าคู่แข่งมากเกินไป และเวียดนามยังคงส่งออกข้าวต่อเนื่อง และยังลดราคาแข่งกับอินเดีย เป็นปัจจัยฉุดราคาข้าวในตลาดโลกให้ลดต่ำลง ประกอบกับความต้องการนำเข้าข้าวจากประเทศผู้ซื้อรายใหญ่อย่างจีน อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ลดลง ทำให้เวียดนามมาชิงตลาดข้าวไทย อีกทั้งประเทศผู้บริโภคข้าวหันมาให้ความสำคัญกับนโยบายพึ่งพาผลผลิตในประเทศ และความผันผวนจากค่าเงินบาทของไทยยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ทำให้กระทบต่อการส่งออกทั้งสิ้น
*ขอรัฐบาลดูแลเงินบาทให้มีเสถียรภาพ อย่าให้แข็งกว่าคู่แข่งมากเกินไป
"ขอให้รัฐบาล ดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพมากกว่านี้ อย่าปล่อยให้แข็งค่าหรืออ่อนค่ามากเกินไปเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง อย่าให้ขึ้นเร็วลงเร็ว ผู้ส่งออกไม่สามารถ Quote ราคาได้ เพราะไม่รู้ Quote ไปแล้ว พรุ่งนี้จะเป็นยังไง และขอให้มีมาตรการที่ทำให้เรื่องการเก็งกำไรของค่าเงินให้น้อยที่สุด ประเทศไทยไม่ได้ต้องการ เพราะบ้านเราต้องการคนมาลงทุนแบบระยะยาว
นอกจากนี้ อยากให้ดูตัวอย่างหลายๆประเทศที่สามารถดูแลค่าเงินของประเทศตัวเองได้ อย่างเวียดนามที่ถือว่าเป็นคู่แข่งทางการค้าที่สำคัญของไทยว่าเค้าทำยังไงถึงดูแลค่าเงินด่องให้อยู่ที่ระดับ 2 หมื่นด่อง/ดอลลาร์ได้มาตลอด แสดงว่าต้องมีมาตรการที่ดีในการสกัดกั้นการเก็งกำไรออกไปได้ ดังนั้นรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมมือกันเข้ามาดูแล
"เราต้องการความมีเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยน การที่เงินบาทแข็งค่าเงินไปแปลว่ามีการเก็งกำไรเกิดขึ้นในประเทศ ทำไมที่ผ่านมาเวียดนามทำได้ แต่เราทำไม่ได้"นายชูเกียรติ กล่าว
*ห่วงอนาคตไทยแข่งขันกันเอง
นายชูเกียรติ กล่าวว่า เวลานี้มีผู้ส่งออกหลายรายเริ่มดิ้นหนีความลำบากในการทำธุรกิจในประเทศไทยหันไปทำธุรกิจข้าวครบวงจรในประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ทั้งการร่วมทุนร่วมมือกับนักธุรกิจท้องถิ่นตั้งโรงสีข้าวในกัมพูชาเพื่อการส่งออก บางรายก็เข้าไปทำธุรกิจเทรดดิ้งข้าวหอมในเวียดนามส่งให้กับลูกค้าในฮ่องกง มาเลเซีย รวมถึงสหรัฐ
"ทำให้เวลานี้ประเทศไทยเหมือนเจอศึก 2 ด้าน ด้านหนึ่งแข่งกับประเทศคู่แข่งด้านการส่งออกข้าว อีกด้านคือแข่งกับคนไทยด้วยกันที่หันไปร่วมมือกับประเทศเหล่านั้นส่งออกข้าวไปต่างประเทศ"นายชูเกียรติ กล่าว