นายคริส ปาร์ค รองประธานของมูดีส์ กล่าวในรายงานสรุปที่กรุงโซลว่า "เมื่อเงินวอนแข็งค่าขึ้น กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์, บริษัทเคมีภัณฑ์และบริษัทก่อสร้าง จะได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากการส่งออกส่วนใหญ่ของกลุ่มบริษัทดังกล่าวอยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์"
"บริษัทเหล็กกล้าและบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ เป็นกลุ่มบริษัทที่อ่อนไหวมากที่สุดต่อการแข็งค่าของเงินวอนเมื่อเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่น เนื่องจากต้องแข่งขันกับบริษัทญี่ปุ่นที่มีการส่งออกจำนวนมาก"
ทั้งนี้ เงินวอนแข็งค่าขึ้น 14.4% เมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งเป็นการแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 ขณะที่นักวิเคราะห์ออกมาเตือนว่า แนวโน้มเงินสกุลเยนที่อ่อนค่าจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อผู้ส่งออกเกาหลีใต้นับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปีนี้เป็นต้นไป