ก.เกษตรฯเล็งซื้อที่ดินเอกชนจัดสรรให้เกษตรกรเช่าทำกิน มอบสปก.เร่งจัดทำแผน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 16, 2013 14:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสภาพปัญหาเรื่องการถือครองที่ดินซึ่ง เป็นปัจจัยพื้นฐานในการทำการเกษตรและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้กำหนดแนวทางการกระจายการถือครองที่ดินเกษตรกรรมโดยกระบวนการปฏิรูปที่ดิน แบ่งเป็น 2 ประการ คือ 1.การเร่งรัดจัดซื้อที่ดินจากเอกชนเพื่อนำมาปฏิรูปที่ดิน โดยจัดสรรให้เกษตรกรเช่าหรือเช่าซื้อในราคาที่เป็นธรรม โดยมอบหมายให้ส.ป.ก.เร่งรัดจัดทำแผนการจัดซื้อที่ดิน จัดทำแผนการพัฒนาพื้นที่ที่จัดซื้อ รวมถึงจัดที่ดินให้ผู้ประสงค์จะเข้าทำประโยชน์ในที่ดินที่จัดซื้อ

2. เร่งรัดการพัฒนากลไกการหมุนเวียนที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งปัจจุบันพบปัญหาเกษตรกรที่ไม่ประสงค์จะใช้ประโยชน์ในที่ดิน เนื่องจากอายุมากและไม่มีผู้สืบทอดอาชีพเกษตรกรรรม แต่ไม่นำที่ดินคืนให้ ส.ป.ก. เนื่องจาก ส.ป.ก.ยังขาดความชัดเจนเรื่องการจ่ายค่าชดเชยกรณีที่เกษตรกรได้ลงทุนในพื้นที่แล้ว จึงเกิดปัญหาการละทิ้งที่ดิน ไม่ใช้ประโยชน์หรือปล่อยให้ผู้อื่นเช่า หรือเกิดการซื้อขายแบบผิดกฎหมาย ที่ดินบางส่วนจึงตกไปอยู่กับนายทุนที่ดินรายใหญ่ ทำให้ที่ดินนั้นไม่ได้นำมาจัดให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกิน หรือผู้ไร้ที่ดินทำกินที่รอโอกาสการได้รับจัดสรร

"การพัฒนากลไกการหมุนเวียนที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินนั้น ส.ป.ก.ควรเร่งรัดการกำหนดเกณฑ์ราคาประเมินที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินที่เหมาะสมสำหรับการจ่ายค่าชดเชย เพื่อรับคืนที่ดินจากเกษตรกรที่ไม่ประสงค์จะใช้ประโยชน์ในที่ดิน นอกจากนี้ ควรเร่งพัฒนากองทุนเพื่อการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้สามารถทำหน้าที่เป็นกลไกหลักในการรับคืนที่ดิน หรือหมุนเวียนที่ดินจากเกษตรกรรายเดิมให้เกษตรกรรายใหม่ ทั้งในกรณีการคืนที่ดินปกติและกรณีเกษตรกรไม่สามารถชำระหนี้กับ ธ.ก.ส.หรือสถาบันการเงินอื่นๆ" นายชวลิต กล่าว

พร้อมระบุว่า จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ระบุในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 มีเกษตรกรยากจนจำนวน 6.6 แสนรายที่ไร้ที่ดินทำกิน สะท้อนให้เห็นถึงการขาดโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรของประชาชนในบางกลุ่ม ซึ่งส่งผลต่อการสร้างรายได้และการสะสมสินทรัพย์ เพื่อยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของครัวเรือน

ประกอบกับข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) พบว่าในปี 54 มีเกษตรกรที่เช่าที่ดินผู้อื่นประมาณ ร้อยละ 19.6 ของที่ดินเกษตรทั้งหมด 149.25 ล้านไร่ ซึ่งพบในภาคกลางสูงที่สุดประมาณ ร้อยละ 36 โดยมีมากกว่า 10 จังหวัดที่มีการเช่ามากกว่าร้อยละ 40 และพบสูงที่สุดที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีการเช่ามากถึงร้อยละ 72 นอกจากนี้ ยังมีปัญหาที่เกษตรกรต้องจ่ายค่าเช่าสูง และการเช่าส่วนใหญ่ไม่มีการทำสัญญาเช่าที่ถูกกฎหมาย หรือสัญญาเช่าไม่สมบูรณ์นำไปสู่การเช่าที่ไม่เป็นธรรมของเกษตรกรรายย่อย

ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าวทำให้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งแก้ปัญหาที่ดินทำกิน โดยเร่งกระจายการถือครองที่ดินให้กับเกษตรกร หรือผู้ไร้ที่ดินทำกินที่ต้องการประกอบอาชีพเกษตรกรรม อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) ดำเนินการจัดสรรที่ดินให้ผู้ไร้ที่ดินทำกิน แต่ที่ผ่านมา ส.ป.ก.ได้จัดหาที่ดินเอกชนโดยการจัดซื้อหรือเวนคืนน้อยมาก เนื่องจากได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการในพื้นที่ของรัฐ ซึ่งมีเกษตรกรครอบครองอยู่เดิมตามนโยบายของรัฐ และปัจจุบันที่ดินของรัฐที่สามารถจัดได้นั้นกำลังจะหมดไป โดยรัฐยังขาดกลไกและมาตรการที่ชัดเจนในการรับคืนที่ดินจากเกษตรกรที่ไม่ประสงค์จะใช้ประโยชน์ในที่ดิน นอกจากนี้แล้ว ยังมีปัญหาจากข้อจำกัดของข้อกฎหมายบางมาตรา รวมถึงความซับซ้อนของขั้นตอนการจัดซื้อที่ดินที่ทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการจัดซื้อที่ดินเอกชน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ