นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กล่าวรายงานว่า นับจากที่รัฐบาลได้จัดสรรและโอนเงินครั้งแรกให้แก่กองทุนหมู่บ้านฯ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2544 ปัจจุบันมีกองทุนหมู่บ้านฯ ทั้งสิ้น 79,255 กองทุน วิวัฒนาการของกองทุนหมู่บ้านฯ มีพัฒนาการเปลี่ยนแปลงหมู่บ้านและชุมชนเมืองในหลายด้าน ทั้งการบริหารจัดการให้แก่กองทุนหมู่บ้านเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียน เพื่อการลงทุนในการสร้างอาชีพ สร้างงาน และรายได้ของประชาชนในชุมชน มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการออมของประชาชนเพื่อความมั่นคงในรากฐานของชีวิตและครัวเรือน มีการจัดระบบสวัสดิภาพ สวัสดิการของหมู่บ้านและชุมชน เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันทางสังคม ซึ่งปัจจุบันมีเงินทุนหมุนเวียนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั่วประเทศประมาณ 1.7 แสนล้านบาท และสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั่วประเทศประมาณ 13 ล้านคน
รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลปัจจุบันได้กำหนดให้นโยบายการเพิ่มทุนกองทุนหมู่บ้านฯ กองทุนละ 1 ล้านบาท เป็นนโยบายเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรก เพื่อเป็นแหล่งเงินทุน ต่อยอดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาไปสู่การสร้างสวัสดิภาพ สวัสดิการ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านฯ จึงได้ดำเนินการพิจารณาอนุมัติจัดสรรโอนเงินให้กองทุนหมู่บ้านฯ ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง
โดยรอบแรกได้อนุมัติจัดสรรโอนเงินจำนวน 21,614 กองทุน เป็นเงิน 21,614 ล้านบาท ในงาน "ทศวรรษใหม่กองทุนหมู่บ้านฯ:เปิดปฏิบัติการเพิ่มทุนล้านใหม่" เพื่อเปิดปฏิบัติการโอนเงินดังกล่าว ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2555, ครั้งที่ 2 ได้อนุมัติโอนเงินเพิ่มทุนล้านใหม่ให้กองทุนหมู่บ้านฯ ทั่วประเทศอีกจำนวน 15,027 กองทุน เป็นเงิน 15,027 ล้านบาท ในงาน "เพิ่มทุนล้านใหม่:เปิดปฏิบัติการสถาบันการเงินชุมชน" เพื่อเปิดปฏิบัติการโอนเงินดังกล่าว ณ หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 14 ก.พ.56 และในวันนี้จะได้โอนเงินเพิ่มทุนล้านใหม่ให้กองทุนหมู่บ้านฯ อีก 8,089 กองทุน เป็นเงิน 8,089 ล้านบาท
ด้านนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเพิ่มทุน 1 ล้านบาทให้แก่กองทุนหมู่บ้านฯ ถือเป็นโครงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญและต้องการเห็นการพัฒนากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกิจกรรมการต่อยอดกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างเป็นลำดับกว่า 11 ปีแล้ว และประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น สามารถเป็นแหล่งเงินทุนของประชาชนเพื่อการลงทุนขยายกิจการ ลดหนี้นอกระบบ ทั้งนี้ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากความร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งของทุกฝ่ายทั้งประชาชน คณะกรรมการและสมาชิกฯ ซึ่งเป็นเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการเห็นการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และการขยายโอกาสให้กับประชาชนทุกคน โดยรัฐบาลขอยืนยันเจตนารมณ์ที่จะให้กองทุนหมู่บ้านฯ เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้เข้มแข็ง
ทั้งนี้การเพิ่มทุน 1 ล้านบาทให้แก่กองทุนหมู่บ้านฯ ของรัฐบาลได้จัดสรรและโอนเงินเพิ่มทุนให้กองทุนฯ ไปแล้ว 2 ครั้ง จำนวนกว่า 36,000 กองทุน และการจัดงานครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 จะมีกองทุนอีก 8,089 กองทุน ที่ได้รับการจัดสรรเพื่อต่อยอดการดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมามีหลายกองทุนฯ ได้เริ่มพัฒนาบริการรับฝากเงิน และส่งเสริมให้ชุมชนรู้จักการออม เพื่อจะได้นำเงินนี้ไปใช้ในภาวะฉุกเฉิน เช่น ใช้ดูแลรักษาในยามเจ็บป่วยหรือเกิดโรคภัย รวมทั้งจะได้ร่วมกันพัฒนาเงินต่างๆ เหล่านี้ เพื่อให้กองทุนหมู่บ้านฯ เป็นที่พึ่งทางการเงินที่เชื่อถือได้อีกแห่งหนึ่ง
"กองทุนฯ ที่ประสบความสำเร็จสามารถยกระดับเป็นสถาบันการเงินชุมชนที่ให้บริการกู้-ยืม ฝาก—ถอนเงินแก่สมาชิก บริการจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ พร้อมบริการร้านค้าหรือสวัสดิการ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ สร้างความเข้มแข็งและความมั่นคงให้กับสมาชิก และให้นำสิ่งที่เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์ดังกล่าวขยายไปสู่ชุมชนอื่นได้เรียนรู้ เพื่อที่จะนำไปใช้ในการพัฒนากองทุนหมู่บ้านฯ ให้มีความเข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง และทำให้หมู่บ้าน/ชุมชนและประเทศไทยมีความเจริญมั่นคงแข็งแรงอย่างยั่งยืนต่อไป" นายกรัฐมนตรี กล่าว