ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานจะปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ คำสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมเครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภคที่มีความผันผวนนั้น นับเป็นปัจจัยชี้วัดการใช้จ่ายด้านทุนในอนาคตของบริษัทต่างๆ
ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานภาคการผลิตในเดือนมี.ค.ทะยานขึ้น 13.3% สู่ระดับ 3.087 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ขณะที่ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรนอกภาคผลิตปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 เช่นกัน ทยานขึ้น 14.3% สู่ระดับ 4.759 แสนล้านเยน เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคปิโตรเลียม ถ่านหิน และภาคการเงิน/ประกันภัยขยายตัวขึ้น จากกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว
ขณะที่ความต้องการเครื่องจักรญี่ปุ่นโดยรวมในต่างประเทศ ซึ่งเป็นมาตรวัดการส่งออกในอนาคตนั้น ทะยานขึ้น 52.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้น 1% ในเดือนก.พ. และลดลง 3.7% ในเดือนม.ค.
อย่างไรก็ตาม สำหรับในอนาคต สำนักรัฐบาลญี่ปุ่นประเมินว่ายอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานจะหดตัวลง 1.5% ในช่วง 3 เดือนที่จะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากตัวเลขดังกล่าว สำนักรัฐบาลญี่ปุ่นจึงคงการประเมินพื้นฐานยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานไว้ที่ระดับเดิม โดยระบุว่าตัวเลขเหล่านี้ส่งสัญญาณการกระเตื้องขึ้นปานกลาง สำนักข่าวเกียวโดรายงาน