ประกอบกับปีที่แล้วเกษตรกรบางส่วนในภาคเหนือและภาคกลางเลื่อนการเพาะปลูกเร็วขึ้น เพื่อป้องกันความเสียหายจากอุทกภัย ส่วนการผลิตข้าวนาปรัง ปี 2556 คาดว่าจะมีเนื้อที่เพาะปลูกรวมทั้งสิ้น 14.7 ล้านไร่ ปริมาณผลผลิต 9.9 ล้านตันข้าวเปลือก ผลผลิตต่อไร่ 676 กิโลกรัมต่อไร่ โดยเนื้อที่เพาะปลูกได้ลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากในปีนี้มีน้ำไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูก ทำให้ภาครัฐกำหนดแผนการบริหารจัดสรรน้ำให้แก่เนื้อที่เพาะปลูกข้าวนาปรังลดลง โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งกรมชลประทานได้ประกาศให้เกษตรกรงดปลูกข้าวนาปรังบริเวณ เขื่อนห้วยหลวง อุบลรัตน์ ลำตะคอง มูลบน ลำแซะ และลำปาว เกษตรกรจึงหันไปปลูกพืชอื่นที่ใช้น้ำน้อยแทน
สำหรับกรอบเวลาการขึ้นทะเบียนเกษตรผู้ปลูกข้าว ปี 2556/57 ได้กำหนดให้มีการเก็บเกี่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 - 30 กันยายน 2557 การขึ้นทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2556 - 30 มิถุนายน 2557 การประชาคม ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2556 -14 กรกฎาคม 2557 และการออกใบรับรอง 15 กรกฎาคม 2556 -15 กันยายน 2557
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาการประมาณการผลผลิตของเกษตรกรในใบรับรองผลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโดยให้ใช้ข้อมูลผลผลิตต่อไร่ของ สศก. ซึ่งจากการตรวจสอบผลผลิตในพื้นที่ทุกจังหวัด พบว่า มีค่าเฉลี่ยรวมทั้งประเทศ 458 กิโลกรัมต่อไร่ ผลผลิตในเขตชลประทาน 595 กิโลกรัมต่อไร่ นอกเขตชลประทาน 410 กิโลกรัมต่อไร่ จำแนกเป็นรายพันธุ์ออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้ 1.ข้าวเจ้าหอมมะลิ มีค่าเฉลี่ยรวม 388 กิโลกรัมต่อไร่ ผลผลิตในเขตชลประทาน 460 กิโลกรัมต่อไร่ นอกเขตชลประทาน 380 กิโลกรัมต่อไร่ 2. ข้าวเจ้าปทุมธานี 1 มีค่าเฉลี่ยรวม 753 กิโลกรัมต่อไร่ ผลผลิตในเขตชลประทาน 768 กิโลกรัมต่อไร่ นอกเขตชลประทาน 628 กิโลกรัมต่อไร่ 3. ข้าวเจ้าอื่นๆ มีค่าเฉลี่ยรวม 571 กิโลกรัมต่อไร่ ในเขตชลประทาน 631 กิโลกรัมต่อไร่ นอกเขตชลประทาน 514 กิโลกรัมต่อไร่ และ 4.ข้าวเหนียว ค่าเฉลี่ยรวม 404 กิโลกรัมต่อไร่ ในเขตชลประทาน 501 กิโลกรัมต่อไร่ นอกเขตชลประทาน 384 กิโลกรัมต่อไร่
โดยกรมส่งเสริมการเกษตรจะออกใบรับรองผลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนปีละ 2 ครั้ง/แปลง/ราย ในช่วงเวลาเก็บเกี่ยว 1 ตุลาคม 2556 - 30 กันยายน 2557 หรือเป็นไปตามกรอบระยะเวลาการจำนำข้าวเปลือกปี 2556/57 ของโครงการรัฐบาล แต่จะไม่ออกใบรับรองผลการขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวให้แก่เกษตรกรปลูกข้าว 18 พันธุ์ที่มีคุณภาพต่ำและมีอายุต่ำกว่า 110 วัน โดยให้มีผลในโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ตั้งแต่ปี 2555/56 ครั้งที่ 2 เป็นต้นไป ซึ่งคณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการผลิต จะนำมติที่ประชุมดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ เพื่อพิจารณาต่อไป