"ต้องคุยกับผู้เกี่ยวข้องหาทางรับมือ ไม่เช่นนั้นเมื่อราคาตก เกษตรกรจะเดือดร้อน โดยแนวทางแก้ปัญหา เช่น ส่งเสริมการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ไข่ไก่ หรือที่ผ่านมาเสนอให้ลดจำนวนแม่ไก่ยืนกรง แต่มาตรการแก้ไขทั้งหมดจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายไข่ไก่และผลิตภัณฑ์ (เอ้กบอร์ด) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง" น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ กล่าว
ส่วนกรณีชมรมผู้เลี้ยงไก่ไข่เสนอให้รัฐบาลเปิดโครงการรับจำนำไข่ไก่ เพื่อแก้ปัญหาราคาตกต่ำนั้น อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า คงทำได้ยาก เพราะไข่ไก่เน่าเสียง่ายและยังมีต้นทุนการจัดเก็บสูง แต่ราคาปัจจุบันนี้เกษตรกรคุ้มทุน โดยราคาหน้าฟาร์มฟองละ 3.10 บาท จากราคาต้นทุนฟองละ 2.60-2.70 บาท ส่วนข้อเรียกร้องให้จ่ายชดเชยค่าแม่ไก่ปลดระวางจะต้องรอให้ครบ 3 เดือนก่อน แต่ขณะนี้เพิ่งผ่านไป 2 เดือนเท่านั้น
ด้านนายชัยพร สีถัน ประธานชมรมผู้เลี้ยงไก่รายย่อยภาคกลาง กล่าวว่า สัปดาห์หน้าจะปรับขึ้นราคาไข่คละหน้าฟาร์มอีก 10 สต. จากฟองละ 3.10 บาท เป็น 3.20 บาท เพราะราคาต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้น ส่วนราคาไข่ไก่ปัจจุบันที่สูงขึ้นนั้นได้ชี้แจงต่อกรมการค้าภายในแล้วว่าสะท้อนกับต้นทุนที่แท้จริง จึงไม่อยากให้ปรับลดราคาลง เพราะตั้งแต่ปีที่ผ่านมาผู้เลี้ยงขาดทุนสะสมมาตลอด
"หากรัฐบาลต้องการช่วยเหลือผู้บริโภคไม่ให้บริโภคไข่ไก่ในราคาแพง จะต้องชดเชยราคาแม่ไก่ให้เกษตรกรที่ขาดทุนในปี 55 ตัวละ 120 บาท รวมทั้งขอให้เปิดรับจำนำราคาไข่ไก่ปี 56 ฟองละ 3.50 บาท นอกจากนี้ ผู้เลี้ยงไก่ไข่ยังเรียกร้องให้กรมการค้าภายในเร่งจ่ายชดเชยการปลดแม่ไก่ยืนกรงตัวละ 10 บาท เพราะขณะนี้มีการปลดไปแล้วเกือบ 10 ล้านตัว แต่ยังไม่ได้รับเงินชดเชย ทั้งที่เอ้กบอร์ดได้อนุมัติแล้ว" นายชัยพร กล่าว