ศูนย์วิจัยฯ ไทยพาณิชย์ คาด GDP ปีนี้ยังสามารถขยายตัวได้ที่ระดับ 5%

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 20, 2013 17:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์(EIC) คาด GDP ในปี 2556 ยังสามารถขยายตัวได้ราว 5% แต่มีความเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจที่สูงกว่าเดิมเล็กน้อย เนื่องจากการใช้จ่ายในประเทศของภาคเอกชนขยายตัวได้ต่ำกว่าคาด แต่การใช้จ่ายลงทุนภาครัฐและการส่งออกมีแนวโน้มที่ดี นอกจากนี้การใช้นโยบายการเงินพยุงเศรษฐกิจก็สามารถทำได้ในภาวะที่ความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อมีค่อนข้างน้อย

โดยวันนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) รายงานตัวเลข GDP ของไทยในไตรมาส 1 ปี 2556 ขยายตัว 5.3%YOY(เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า) แต่หดตัว 2.2% QOQ(เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า)

EIC มองว่า การที่ GDP ไตรมาส 1 ปี 2556 ขยายตัว 5.3% ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการใช้จ่ายในประเทศของภาคเอกชนชะลอตัวลง การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวเพียง 4.2%YOY เพราะการหดตัวลงเหนือความคาดหมายของการใช้จ่ายในหมวดบริการและในหมวดสินค้าจำเป็น เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค สาธารณูปโภค และพลังงาน เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ในปีก่อน ส่วนการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวเพียง 3.1%YOY จากการลงทุนในหมวดเครื่องจักรอุตสาหกรรมที่หดตัว 9.0%YOY ตามการนำเข้าเครื่องมือเครื่องจักรที่ชะลอตัวหลังจากที่ได้มีการเร่งนำเข้ามาในช่วงไตรมาส 1 ในปีก่อนภายหลังน้ำท่วม ขณะที่การก่อสร้างยังสามารถขยายตัวได้ดีทั้งการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและการพาณิชย์ที่ยังขยายตัวได้ 10.3%YOY และ 8.5%YOY ตามลำดับ

ขณะที่การลงทุนภาครัฐขยายตัวได้ดีตามคาด การใช้จ่ายลงทุนของภาครัฐขยายตัว 18.8%YOY โดยการลงทุนในเครื่องจักรขยายตัว 30.3%YOY จากการลงทุนในเครื่องจักรโรงไฟฟ้าและการนำเข้าเครื่องบินเพื่อการพาณิชย์ ขณะที่การก่อสร้างขยายตัว 13.4%YOY ชะลอลงจากไตรมาสที่แล้วที่ขยายตัว 27.1%YOY

แม้การส่งออกสินค้าจะชะลอตัวลง แต่การท่องเที่ยวขยายตัวดี การส่งออกขยายตัว 3.8%YOY ชะลอตัวจากไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โลหะ เครื่องจักร คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน เป็นต้น รวมไปถึงสินค้าเกษตรอย่างกุ้งแช่แข็งที่ส่งออกได้ลดลงเนื่องจากเกิดโรคระบาด แต่รายรับด้านบริการขยายตัว 25.5%YOY จากการขยายตัวของรายรับจากการบริการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นผลจากการที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาค่อนข้างมาก

ดังนั้นภาครัฐจะต้องติดตามการใช้จ่ายในประเทศที่ชะลอลง การใช้จ่ายในประเทศในไตรมาส 1 น่าจะขยายตัวได้ดีกว่าข้อมูลที่ออกมาเนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนทั้งจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรอบที่สอง อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ และเงินบาทที่แข็งค่าซึ่งช่วยให้ราคาพลังงานไม่เป็นอุปสรรคในการใช้จ่ายของครัวเรือน สำหรับในช่วงที่เหลือปี 2013 นั้น ปัจจัยสนับสนุนของการใช้จ่ายในประเทศจะมาจากการฟื้นตัวของรายได้ของผู้ประกอบการและแรงงานภาคส่งออก ซึ่งต้องติดตามว่าจะสามารถรักษาแรงขับเคลื่อนของการใช้จ่ายโดยรวมต่อไปได้หรือไม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ