"กิตติรัตน์"สั่งบูรณการทำงานหนุนท่องเที่ยว,หวังดึงรายได้ 2 ล้านลบ.ปี 58

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 21, 2013 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชนว่า หลังจากนี้จะประสานให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานอย่างเป็นเอกภาพ เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศมีความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน เน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีกำลังซื้อสูง เช่น กลุ่มประชุมสัมมนา(MICE) เพื่อไปสู่เป้าหมายสร้างรายได้เข้าประเทศจำนวน 2 ล้านล้านบาทในปี 58

เบื้องต้นจะประสานกระทรวงคมนาคมในเรื่องของความพร้อมของเส้นทางคมนาคม เพื่อรองรับช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว, ประสานกับกระทรวงแรงงานในเรื่องการพัฒนาบุคลากร, ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องสุขอนามัย และการให้บริการด้านสาธารณสุข, ประสานกับกระทรวงการคลังเรื่องงบประมาณในการจัดทำฐานข้อมูลนักท่องเที่ยว, ประสานกระทรวงต่างประเทศเรื่องหนังสือเดินทางเข้าประเทศ เป็นต้น

ด้านนางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รายงานต่อที่ประชุมว่า จำนวนนักท่องเที่ยวในไตรมาสแรกของปีนี้มีจำนวน 8.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 19 โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 และนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่มีสัดส่วนร้อยละ 30 เพิ่มขึ้นร้อยละ 12

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวในไตรมาส 1 ยังคงขยายตัวได้ เนื่องจากประเทศไทยมีข้อได้เปรียบด้านราคาที่พักและราคาอาหารที่ถูกกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน ความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยว ประกอบกับปัญหาการเมืองในประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยแทน

สิ่งที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ คือ การดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่ 29-30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และมีเสถียรภาพ ไม่ให้ผันผวนมากเกินไป พร้อมทั้งเรียกร้องรัฐบาลให้ความสำคัญและเข้ามาดูแลภาคการท่องเที่ยว โดยเน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพ และเข้ามาแล้วมีการใช้จ่ายสูง แทนการเน้นเพียงปริมาณนักท่องเที่ยว เช่น กลุ่มนักท่องเที่ยวจากจีน อินเดียและรัสเชีย เมื่อเข้ามาแล้วจะเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายสูง จึงควรออกวีซ่าแบบ Multiple หรือวีซ่าที่สามารถเข้าออกประเทศได้หลายครั้ง

นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังเรียกร้องให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้กระทรวงแรงงาน จัดอบรมแรงงานคุณภาพสำหรับบริการด้านการท่องเที่ยวกว่า 1 แสนคน เพื่อรองรับการให้บริการในฤดูกาลท่องเที่ยว(ไฮซีซั่น) ซี่งกำลังจะมาถึง และหากออกมาตรการต่างๆ ดูแลได้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้เป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปีที่ 24 ล้านคน

ที่ประชุมฯ ยังได้หารือแนวทางการส่งเสริมให้ต่างชาติเดินทางเข้ามารับบริการรักษาพยาบาลและสุขภาพ เพราะมีอัตราขยายตัวเติบโตสูงมาก เพื่อทำรายได้เข้าประเทศ จึงได้ขยายเวลาพักอาศัยในประเทศเป็นเวลา 90 วันในการรักษาโรค และยังมีข้อเสนอเกี่ยวกับการควบคุมการจดทะเบียนของบริษัททัวร์ โดยมีค่าธรรมเนียมจดทะเบียนเพียง 2.5 แสนบาท ทำให้กลุ่มเอสเอ็มอีเข้ามาจดทะเบียนจำนวนมากจึงอาจเกิดปัญหาขาดคุณภาพในการดูแลนักท่องเที่ยว และหากมีการชดเชยบริษัททัวร์รายเล็กจะดูแลไม่ดี

ที่ประชุมฯ มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการคลังดูแลด้านงบประมาณ สินเชื่อผ่อนปรน ช่วยเหลือด้านท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ การปรับปรุงสนามบิน เช่น สนามบินภูเก็ต และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพือไม่ให้ผู้โดยสารแออัด ทั้งนี้เพื่อรองรับฤดูการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นในปีนี้ การดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศ สำหรับการเดินทางเข้ามาเพื่อจุดประสงค์อื่น ทั้งการรักษาพยาบาลและการจัดงานนิทรรศการ ส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวฯดุแลในภาพรวม เพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามาในประเทศ เมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รวมรวมข้อมูลและออกแผนร่วมกันในการดูแลภาคการท่องเที่ยวมาเสนอในที่ประชุมอีกครั้ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ