ในขณะที่นายวิลเลียม ดัดลีย ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวในที่ประชุมสมาคมญี่ปุ่นซึ่งจัดขึ้นที่นิวยอร์กว่า "ผมเชื่อว่าเฟดน่าจะเตรียมปรับขนาดโครงการซื้อพันธบัตร ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการฟื้นฟูตลาดแรงงานให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน"
การแสดงความคิดเห็นของประธานเฟดทั้งสองสะท้อนให้เห็นว่า เฟดกำลังส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ยุติการใช้มาตรการ QE และถือเป็นการสยบความวิตกกังวลที่แพร่สะพัดในตลาดการเงินก่อนหน้านี้ว่าเฟดอาจจะยุติหรือชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หลังจากนายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่าเขาสนับสนุนให้เฟดชะลอการซื้อสินทรัพย์ โดยระบุว่าเฟดอาจเพียงแค่ชะลอการซื้อ แทนที่จะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างฉับพลัน
ทั้งนี้ การแสดงความคิดเห็นในมุมบวกของประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์และนิวยอร์ก ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ในการซื้อขายเมื่อคืนนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนในตลาดการเงินยังรอดูถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการร่วมด้านเศรษฐกิจของสภาคองเกรส ในวันพุธที่ 22 พ.ค.นี้ ตามเวลาท้องถิ่น และในวันเดียวกันนั้น เฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. ซึ่งจะตรงกับเวลาเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ค.ตามเวลาไทย
สำหรับการประชุมเฟดครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25% พร้อมกับประกาศเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงต่ำกว่าระดับ 6.5% และจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 2.5%