ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 103.2 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 102.54 เยน และพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9798 ฟรังค์ จากระดับ 0.9703 ฟรังค์
ค่าเงินยูดรร่วงลงแตะระดับ 1.2843 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2901 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5037 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5152 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลงแตะระดับ 0.9687 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9803 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากเบอร์นันเก้แถลงต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วกว่ากำหนดจะทำให้เศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัวลง แต่เขากล่าวว่า การลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรนั้นอาจจะมีขึ้นในการประชุมอีกไม่กี่ครั้งข้างหน้า ซึ่งจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับ รวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค ตัวเลขการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ และข้อมูลด้านการจ้างงานของสหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนเพิ่มขึ้นหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.6% แตะระดับ 4.97 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2552 ขณะที่ราคากลางของบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 192,800 ดอลลาร์ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2551
ส่วนค่าเงินเยนร่วงลงหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ตัดสินใจคงนโยบายผ่อนคลายการเงินเชิงรุกในปัจจุบันต่อไปเพื่อรับมือกับภาวะเงินฝืด ขณะที่การบริโภคและการส่งออกของประเทศได้เริ่มฟื้นตัว ท่ามกลางเยนที่อ่อนค่าและราคาหุ้นที่พุ่งขึ้น
ทั้งนี้ บีโอเจเปิดเผยในแถลงการณ์ที่มีการเปิดเผยหลังการประชุมในวันนี้ว่า บีโอเจจะเพิ่มฐานเงินที่อัตรา 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการที่ประกาศไปเมื่อเดือนเม.ย.
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นุดวันที่ 18 พ.ค.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะลดลงมาอยู่ที่ 345,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 360,000 ราย
จากนั้นในเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย. ซึ่งมีการคาดการณ์ว่ายอดขาย บ้านใหม่จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 425,000 ยูนิต จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 417,000 ยูนิต