ในวันนี้ (29 พ.ค.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25 basis points (bps) จาก 2.75% เหลือ 2.50% แต่ ธปท. ยังกังวลความเสี่ยงด้านเสถียรภาพการเงินรวมไปถึงเงินทุนเคลื่อนย้าย การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอาจเป็นการเร่งการขยายตัวของสินเชื่อ ซึ่งหากอยู่ระดับที่สูงเกินไปจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินได้ นอกจากนี้เงินทุนเคลื่อนย้ายจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของประเทศสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ก็ยังคงเป็นความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการเงินที่ธปท.ให้ความสนใจเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ธปท.อาจมีการใช้มาตรการ Macroprudential เพิ่มเติม เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ และสินเชื่อภาคครัวเรือนขยายตัวสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการกำกับดูแลการปล่อยสินเชื่อในภาคอสังหาริมทรัพย์ เช่น การลดอัตราส่วนวงเงินกู้ต่อมูลค่าหลักประกัน (Loan to Value: LTV) ลงสำหรับผู้ที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 ขึ้นไป เพื่อชะลอความร้อนแรงในการเก็งกำไรที่อยู่อาศัยและลดความเสี่ยงในการเกิดฟองสบู่