"ปิดตลาดเย็นวันนี้เงินบาทแข็งค่าลงมาเล็กน้อยจากช่วงเช้า โดยป็นการแข็งค่าตามภูมิภาค โดยเฉพาะยูโรค่อนข้างแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซนออกมาค่อนข้างดี เช่น ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในเดือนพ.ค.ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 89.4 จากระดับ 88.6 ในเดือนเม.ย., Consumer Confident ติดลบน้อยลง, Service Confident" นักบริหารเงิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ที่ต้องจับตาในคืนนี้ คือ ตลาดจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ 2 รายการที่จะมีการเปิดเผยคืนนี้ ได้แก่ ประมาณการจีดีพีไตรมาส 1/2556, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนเม.ย.
"หากคืนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาดี จะเพิ่มความกังวลให้ตลาดเรื่องของการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เรียกว่า QE และพรุ่งนี้เช้าอาจจะได้เห็นดอลลาร์แข็งค่าหรือเงินบาทอ่อนค่าได้"
นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 30.10-30.30 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ช่วงเย็นวันนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 100.85/86 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 101.22/24 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2984/2986 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.2960/2962 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,581.32 จุด ลดลง 20.29 จุด, -1.27% มูลค่าการซื้อขาย 57,710.56 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 3,829.84 ลบ.(SET+MAI)
- คณะกรรมาธิการยุโรปเผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในเดือนพ.ค.ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 89.4 จากระดับ 88.6 ในเดือนเม.ย. ท่ามกลางสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของภูมิภาคเริ่มหลุดพ้นจากภาวะถดถอยที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้ผลิตของยุโรปเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับติดลบ 13 จากระดับติดลบ 13.8 ในเดือนเม.ย. ขณะที่ความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจบริการเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับติดลบ 9.3 จากระดับติดลบ 11.1
สำหรับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคนั้น ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับติดลบ 21.9 จากระดับติดลบ 22.3
การเปิดเผยข้อมูลเชิงบวกในวันนี้เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยยอดส่งออกของยูโรโซนเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนมี.ค. และยอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นแตะ 1.87 หมื่นล้านยูโร (2.4 หมื่นล้านดอลลาร์) นอกจากนี้ ยอดขายรถยนต์เดือนเม.ย.ในสหภาพยุโรปยังปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2554
- นักวิเคราะห์ คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัว 2.5% ต่อปี ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2556 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทรงตัวจากข้อมูลประมาณการครั้งแรกในเดือนที่แล้ว โดยสหรัฐจะเปิดเผยประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1/2556 คืนนี้ตามเวลาไทย
- นายกรัฐมนตรีเอ็นริโก เลตตา ของอิตาลี แสดงความพอใจกับคำแนะนำของคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ที่ให้มีการถอดชื่ออิตาลีออกจากบัญชีดำกลุ่มประเทศที่มียอดขาดดุลมากเกินไป
- องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) เปิดเผยว่าอิตาลีกำลังเผชิญกับภาวะถดถอยที่รุนแรงขึ้น และอัตราว่างงานที่สูงขึ้นในปีนี้ โดยคาดว่าเศรษฐกิจอิตาลีจะขยายตัวที่ -1.8% ในปี 2556 ซึ่งย่ำแย่กว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
- สำนักงานสถิติของอิตาลี (Istat) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของอิตาลีลดลงต่อเนื่องในเดือนเม.ย. จากราคาพลังงานที่ปรับลดลง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
- รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เผยบีโอเจจะติดตามสถานการณ์ในตลาดพันธบัตรอย่างระมัดระวัง ขณะเดียวกันก็ชี้ว่า การปฏิรูปในเชิงโครงสร้างนั้น เป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับการรับมือกับภาวะเงินฝืด
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 193 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 13,103 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,417.39 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ปรับตัวขึ้น 20.88 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้