สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 20.2 ดอลลาร์ หรือ 1.45% ปิดที่ 1,412.0 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1417.7 - 1388.4 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 23.7 เซนต์ ปิดที่ 22.69 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 1.85 เซนต์ ปิดที่ 3.3155 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,482.70 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 29.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 760.55 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 10.45 ดอลลาร์
สัญญาทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับลดตัวเลขจีดีพีที่แท้จริงประจำไตรมาส 1/2556 ลงเหลือ 2.4% จากที่ประมาณการไว้ครั้งแรกว่าขยายตัว 2.5%
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 พ.ค. เพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 354,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 340,000 ราย และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ประจำเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 0.3% แตะที่ 106.0 ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.1%
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อทองคำในภูมิภาคเอเชีย โดยสมาคมทองคำโลกเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ความต้องการทองคำในเอเชียในเดือนเม.ย.จนถึงมิ.ย. มีแนวโน้มจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส
ก่อนหน้านี้สภาทองคำโลกรายงานว่า ความต้องการทองคำในอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่ซื้อทองคำมากที่สุดในโลก มีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส โดยคาดว่ายอดการนำเข้าทองคำของอินเดียจะพุ่งขึ้นแตะ 300-400 ตัน