ดังนั้นธนาคารจึงมั่นใจว่ามีศักยภาพเพียงพอจะดำเนินการได้ และมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะปล่อยสินเชื่อให้กับภาครัฐและเอกชนที่จะเข้าร่วมโครงการนี้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันธนาคารมีประสบการณ์ปล่อยสินเชื่อลูกค้าโครงการขนาดใหญ่มานาน จึงเชื่อว่าจะเป็นจุดเด่นที่จะร่วมโครงการเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตามยอมรับว่ายังมีความกังวลว่าความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง จะทำให้โครงการเหล่านี้ไม่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงต้องการเห็นความชัดเจนในเรื่องนี้จากรัฐบาล
ทั้งนี้ ยังมองว่าเศรษฐกิจไทยถึงแม้จะมีสัญญาณชะลอตัว แต่จากแนวโน้มการลงทุนในอนาคตของรัฐบาลจะทำให้นักลงทุนยังมีความเชื่อมั่น และผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตต่อไปได้ รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีผลให้อัตราดอกเบี้ยโดยรวมของธนาคารพาณิชย์ปรับลดลงตามไปด้วย ทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้นและควบคุมการไหลเข้าของเงินลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงต้องการเห็นค่าเงินบาทมีเสถียรภาพ ไม่ผันผวน
ในขณะเดียวกันธนาคารยังคงตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อปีนี้ขยายตัว 1.5 ของจีดีพีประเทศได้ เนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมาสินเชื่อขยายตัวถึง 4.58% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) มีเพียงร้อยละ 1.6 เท่านั้น