กองทุนส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานหนุนงบติดตั้ง Solar Rooftop ในอาคารภาครัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 3, 2013 14:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมว่าที่ประชุมฯ ได้อนุมัติเงินกองทุนฯ จำนวน 1,847 ล้านบาท ให้กระทรวงพลังงานไปดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ให้กับอาคารภาครัฐ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพลังงานทดแทนที่มีความเหมาะสมในการสนับสนุนเพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้าลดค่าใช้จ่ายและลดการนำเข้าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าได้

ทั้งนี้ การดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นไปตามเป้าหมายการผลิตพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก 25% ใน 10 ปี (พ.ศ.2555-2564) เท่ากับ 2,000 เมกะวัตต์ ซึ่งได้กำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินการส่งเสริมระบบขนาดเล็กที่สามารถติดตั้งได้ในชุมชนและระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ให้ได้ 1,000 เมกะวัตต์ใน 10 ปี โดยพิจารณาติดตั้งระบบดังกล่าวในอาคารบ้านเรือนบ้านจัดสรรคอนโดมิเนียมโรงงานอุตสาหกรรมอาคารสำนักงาน และอาคารภาครัฐเป็นต้น

ปัจจุบันอาคารภาครัฐกระจายอยู่ทั่วประเทศประมาณ 5,298 แห่ง มีการใช้พลังงานในภาพรวมประมาณ 673 ล้านหน่วย/ปีหรือปีละ 57 ktoe ซึ่งภาครัฐมีภาระค่าใช้จ่ายสำหรับค่าไฟฟ้าในอาคารภาครัฐกว่า 2,500 ล้านบาท/ปี ดังนั้นการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) จะสามารถผลิตไฟฟ้าใช้ในอาคารภาครัฐได้เองและยังสามารถช่วยตอบสนองความต้องการใช้พลังงานในช่วงกลางวัน (Peak load) อีกด้วย

สำหรับโครงการดังกล่าวตั้งเป้าหมายติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคารศาลากลางจังหวัดในเขตรับผิดชอบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั้ง 74 จังหวัดและหลังคาอาคารของรัฐในเขตจังหวัดในความรับผิดชอบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั้ง 74 จังหวัด เช่น อบต. เทศบาลฯลฯ รวมทั้งสิ้นประมาณ 25 เมกะวัตต์โดยแบ่งเป็นจังหวัดขนาดใหญ่ที่มีจำนวนตำบลมากกว่า 180 ตำบล จำนวน 8 จังหวัด รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 6 เมกะวัตต์ จังหวัดขนาดกลางที่มีจำนวนตำบลระหว่าง 90-180 ตำบล จำนวน 27 จังหวัดรวมกำลังการผลิตติดตั้ง 10.5 เมกะวัตต์ และจังหวัดขนาดเล็กที่มีจำนวนตำบลน้อยกว่า 90 ตำบลจำนวน 39 จังหวัดรวมกำลังการผลิตติดตั้ง 8.5 เมกะวัตต์

การดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคานำร่องในอาคารของรัฐในภูมิภาคในครั้งนี้ กระทรวงพลังงานคาดการณ์ว่าจะช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ 36.5 kwh /ปี คิดเป็นเงินประหยัดได้ปีละ 146 ล้านบาท และลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าประมาณ 11 ล้านลิตร/ปีหรือปีละประมาณ 330 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ประมาณ 18,980 ตัน/ปี ลดการปล่อยซัลเฟอร์ไดออกไซด์(Sox)ได้ประมาณ 5 ตัน/ปี และลดการปล่อยไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ได้ประมาณ 52 ตัน/ปี

ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบอนุมัติงบประมาณจำนวน 300 ล้านบาท ให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ดำเนินโครงการศึกษาวิจัยต้นแบบ “วิสาหกิจชุมชนพลังงานสีเขียวจากพืชพลังงาน (ก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงาน)" เพื่อส่งเสริมให้นำพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกต่างๆ ในชุมชนที่มีศักยภาพมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งนอกจากจะช่วยประเทศมีความมั่นคงด้านพลังงาน ยังเป็นการช่วยสร้างอาชีพที่มีรายได้มั่นคง ยกระดับฐานะทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนในท้องถิ่นอีกด้วย

ส่วนความคืบหน้าการปรับโครงสร้างพลังงาน รมว.พลังงาน กล่าวว่า สำหรับโครงการก่อสร้างคลังน้ำมัน ยังอยู่ระหว่างการศึกษาและวางแผผนการก่อสร้าง คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างอย่างน้อยอีก 2 ปี ส่วนโครงสร้างของแอลพีจี น่าจะเริ่มประกาศใช้ได้ 1 ก.ค.นี้ จะมีส่วนช่วยทำให้ราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันโซล่าร์ปรับตัวลดลงด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ