ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 99.43 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 100.67 เยน และอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9468 ฟรังค์ จากระดับ 0.9599 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3075 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2980 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5327 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5182 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.9755 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9533 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนพ.ค.ลดลงแตะ 49.0 จาก 50.7 ในเดือนเม.ย. โดยระดับที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตเผชิญกับภาวะหดตัว
ทั้งนี้ ISM ระบุว่ากิจกรรมภาคการผลิตในเดือนพ.ค.ออกมาต่ำกว่าคาด และเป็นการหดตัวครั้งแรกนับแต่เดือนพ.ย.2555 หรือในรอบ 6 เดือน
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 8.608 แสนล้านดอลลาร์ เทียบกับที่ลดลง 0.8% ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ส่วนสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นมาแตะ 48.3 เทียบกับ 47.58 ในเดือนเม.ย.
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรซึ่งปรับตัวดีขึ้นในเดือนที่แล้ว ได้รับแรงหนุนจากการที่กิจกรรมการผลิตของประเทศสมาชิกรายใหญ่ๆ ต่างก็มีทิศทางที่เพิ่มสูงขึ้น แม้ว่ายังไม่หลุดพ้นจากภาวะหดตัว เนื่องจากดัชนีของประเทศสมาชิกดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 50
นักลงทุนจับตาดู ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนพ.ค.ในวันพุธนี้เวลา 19.15 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นราว 165,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
ส่วนในวันศุกร์นี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ค.จะเพิ่มขึ้น 168,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 7.5%