คาดการณ์โดยเฉลี่ยสำหรับการขยายตัวด้านการส่งออกของจีนอยู่ที่ 6.9% ซึ่งร่วงลงอย่างหนักหลังจากที่เพิ่ขึ้น 14.7% ในเดือนเม.ย. ส่วนคาดการณ์โดยเฉลี่ยสำหรับการเติบโตด้านการนำเข้าอยู่ที่ระดับ 6.2% เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.ที่ 16.8% ทั้งนี้ คาดว่ายอดเกินดุลการค้าจะอยู่ที่ 1.95 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนพ.ค.
ซิติค ซิเคียวริตีส์ระบุว่า ดัชนีย่อยของดัชนี PMI แสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวของอุปสงค์จากต่างประเทศยังคงอ่อนแอเมื่อเทียบเป็นรายเดือน และหน่วยงานกำกับดูแลของจีนได้เพิ่มการกำกับดูแลด้านข้อมูลการค้า
บริษัทไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล คอร์เปอเรชั่น (CICC) คาดว่าการขยายตัวด้านการส่งออกเมื่อเทียบรายปีอาจอยู่ที่ระดับ 0% เมื่อพิจารณาจากตัวเลขฐานที่ระดับสูงในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว และการที่ทางการจีนควบคุมการไหลของเงินทุนต่างชาติ นอกจากนี้ ดัชนีคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกล็อตใหม่ ซึ่งเป็นดัชนีย่อยของดัชนี PMI ซึ่งมีการเปิดเผยโดย HSBC นั้น ยังอยู่ในระดับต่ำว่า 50 ในช่วง 2 เดือนนี้
ทั้งนี้ ยูบีเอส ซิเคียวริตีส์มีมุมมองที่คล้ายคลึงกัน โดยเสริมว่าการแข็งค่าของสกุลเงินหยวนในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของจีน
ในส่วนของการนำเข้านั้น เหลียนซุน ซิเคียวริตี้ส์ระบุว่าเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงขาดปัจจัยกระตุ้น ซึ่งอาจทำให้การขยายตัวของการนำเข้าชะลอลงในเดือนพฤษภาคม สำนักข่าวซินหัวรายงาน