ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้นมายืนเหนือระดับ 100.05 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9470 ฟรังค์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.9468 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3028 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3075 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5304 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5327 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.9635 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9755 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐประจำเดือนเม.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 8.5% แตะที่ 4.03 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับระดับของเดือนมี.ค.ที่ 3.71 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ยอดขาดดุลการค้าเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.15 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้สหรัฐมียอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นนั้น มีสาเหตุจากยอดนำเข้าที่ทะยานขึ้น 5.4 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 2.2 พันล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาดู ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนพ.ค.ในวันพุธนี้เวลา 19.15 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นราว 165,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
ส่วนในวันศุกร์นี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ค.จะเพิ่มขึ้น 168,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 7.5%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่า อีซีบีจะตรึงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ที่ระดับ 0.50%
ส่วนในการประชุมเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการอีซีบีมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 0.50% เนื่องจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอของกลุ่มประเทศยูโรโซน