ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมจะพิจารณาอัตราค่าจ้างที่ปรึกษา จากค่าใช้จ่าย 2 ส่วน คือ ค่าใช้จ่ายคงที่ และค่าใช้จ่ายผันผวน ซึ่งจะมีผลต่อวงเงินค่าจ้างทำให้โครงการขนาดใหญ่ มีค่าจ้างที่ปรึกษาในสัดส่วนที่ต่ำกว่าโครงการขนาดเล็ก เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงอาจอยู่ที่ 2% ขณะที่โครงการก่อสร้างถนนอาจมีค่าจ้างที่ 4%
อย่างไรก็ตาม การลงทุนโครงการขนาดใหญ่จะคิดแค่ประหยัดค่าจ้างที่ปรึกษาเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องคิดถึงรายละเอียดของเนื้องานด้วย โครงการที่ต้องใช้เทคนิคสูง เช่น การเจาะอุโมงค์ ก็ต้องมีค่าจ้างที่สูง เพราะหากเกิดความผิดพลาดผลเสียหายจะเป็นวงกว้างและรุนแรง