เงินบาทเปิด 30.56/58 แนวโน้มยังอ่อนค่าต่อ หลังเงินไหลออกจากตลาดหุ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 6, 2013 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.56/58 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.53/55 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค
"เคลื่อนไหวตามภูมิภาค โดยยังคงมีแนวโน้มปรับตัวอ่อนค่า" นักบริหารเงิน กล่าว

สาเหตุที่ส่งผลต่อค่าเงินบาทส่วนหนึ่งมาจากการไหลออกของเงินทุนต่างประเทศที่มีปริมาณมากพอสมควร ซึ่งจะเห็นจากการลงทุนในตลาดหุ้นที่ต่างชาติมีขายสุทธิต่อเนื่องมากหลายวันแล้ว

นักบริหารเงินประเมินทิศทางค่าเงินบาทในวันนี้มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยมองกรอบไว้ระหว่าง 30.45-30.65 บาท/ดอลลาร์

"บาทน่าจะแกว่งตัวในทิศทางอ่อนค่า" นักบริหารเงิน กล่าว

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.27/29 เยน/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 99.63/65 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3092/3093 ดอลลาร์/ยูโร แข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3064/3066 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 30.5240 บาท/ดอลลาร์
  • สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ(EIA) เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค.ปรับตัวลดลงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลงสวนทางคาดการณ์ ด้านสต็อกน้ำมันกลั่นและอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยสต็อกน้ำมันดิบลดลงถึง 6.27 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในปีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 400,000 บาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 400,000 บาร์เรล สวนทางกับที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล ด้านอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 2% แตะ 88.4% ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5%
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้(5 มิ.ย.) หลังทางการสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบปีนี้ แต่ปิดบวกเพียงเล็กน้อยเพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่าตัวเลขจ้างงานในภาคเอกชนของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.46% ปิดที่ 93.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน ก.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.19% ปิดที่ 103.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้(5 มิ.ย.) เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กและตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ 1,398.5 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 20 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 13,030 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,409.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 2.16 ดอลลาร์สหรัฐ
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(5 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานในภาคเอกชนปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรเพื่อกระต้นเศรษฐกิจ โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 99.19 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 100.05 เยน และอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9417 ฟรังค์ จากระดับ 0.9470 ฟรังค์ ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3087 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3028 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.5402 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5304 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.9525 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9635 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซากว่าคาดการณ์ ขณะเดียวกันนักลงทุนก็ยังวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะลดวงเงินซื้อพันธบัตรหรือไม่ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับลง 0.1% แตะ 132.19 จุด เมื่อเวลา 9.58 น.ตามเวลาโตเกียว, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 12,925.29 จุด ลดลง 89.58 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,264.42 จุด ลดลง 6.51 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,908.45 จุด ลดลง 160.79 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,135.56 จุด ลดลง 46.35 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,211.16 จุด ลดลง 32.27 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 6,557.89 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,775.35 จุด เพิ่มขึ้น 0.93 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,832.00 จุด ลดลง 3.20 จุด ส่วนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันรำลึกถึงวีรชนแห่งชาติ
  • ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เปิดเผยในรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัวในอัตราเล็กน้อยถึงปานกลาง ระหว่างเดือน เม.ย.-กลางเดือน พ.ค.โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคที่อยู่อาศัยและการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้านการใช้จ่ายของผู้บริโภค
  • นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล หัวหน้ากลยุทธ์การลงทุนและผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดลูกค้าส่วนบุคคล บล. ทิสโก้ เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์ต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา รวมมูลค่ากว่า 15,653.44 ล้านบาท เนื่องจากต้องการนำเงินมาชดเชยการขาดทุนในตลาดตราสารหนี้สหรัฐ
  • นายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากลงได้ หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ว่า ขณะนี้สภาพคล่องในระบบยังอยู่ในภาวะตึงตัว จากความต้องการสินเชื่อของผู้ประกอบการมีสัดส่วนที่สูง ทั้งธุรกิจเอสเอ็มอี รายย่อยและรายใหญ่ ประกอบกับภาครัฐมีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในอีก 5-6 ปีข้างหน้า จึงทำให้ธนาคารพาณิชย์ยังไม่ลดดอกเบี้ยในช่วงนี้
  • "กสิกรไทย" ชี้ลูกค้าเริ่มชะลอแผนการะดมทุนหวั่นต้นทุนการเงินพุ่ง หลังมูดี้ส์จ้องปรับเครดิต ขณะที่การลดคิวอีของสหรัฐ ทำให้สถานการณ์ตลาดโลกมีความไม่แน่นอน ประกอบกับความต้องการสินเชื่อจารัฐและเอกชนที่ยังสูง ทำให้การลดดอกเบี้ยของแบงก์ยังไม่สามารถลดได้เร็ว มั่นใจสินเชื่อรายใหญ่ยังโตได้ตามเป้า 4-6% ดันเอกชนพึ่งตลาดทุนลดการกระจุกตัวสินเชื่อ และหนุนรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่ม
  • น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานเศรษฐกิจมาประชุมร่วมกันเพื่อหารือสถานการณ์เศรษฐกิจและเงินทุนเคลื่อนย้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ