ด้านนายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้ยอดการใช้เอทานอลปรับตัวสูงขึ้น อยู่ที่ 2.56 ล้านลิตร/วัน ปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่มีการใช้อยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านลิตร/วัน
สำหรับสาเหตุที่การใช้ปรับเพิ่มขึ้น เรื่องจากการยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 และการส่งเสริมส่วนต่างราคาอี 20 และอี 10 ให้เพิ่มสูงขึ้นเป็นไม่เกิน 3 บาท ขณะที่ประเทศไทยมีกำลังผลิตเอทานอล 4 ล้านลิตรต่อวัน จาก 20 โรงงานที่แยกเป็นโรงงานที่ผลิตจากกากน้ำตาล 11 โรงงาน ผลิตจากมันสำปะหลัง 6 โรงงาน และอีก 3 โรงงานสามารถใช้วัตถุดิบได้ทั้ง 2 ประเภท
"มั่นใจว่าภายในปี 2564 จะเป็นไปตามเป้าหมายของแผนพลังงานทดแทนที่ 9 ล้านลิตร/วัน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการที่กรมสรรพสามิตออกประกาศภาษีรถยนต์อี 85 จัดเก็บในอัตราต่ำกว่ารถยนต์ทั่วไป 5% ซึ่งถูกกว่ารถยนต์ทั่วไปอัตราสูงสุดกว่า 100,000 บาท/คัน และรถยนต์อี 85 ยังสามารถเติมน้ำมันได้ทุกประเภท จึงเชื่อว่าค่ายรถยนต์ต่างๆ จะหันมาผลิตรถยนต์อี 85 มากขึ้น ประกอบกับจะต้องมีแผนส่งเสริมการใช้อี 85 ด้วยมาตรการราคาที่จะต้องจูงใจผู้ใช้ด้วย เพราะอี 85 มีอัตราสิ้นเปลืองกว่าน้ำมันทั่วไป 25% ราคาจึงควรถูกกว่าน้ำมันชนิดอื่นอย่างน้อย 40%"นายประพนธ์ กล่าว
ด้านราคาเอทานอล นายประพนธ์ กล่าวขณะนี้ราคาเอทานอลปรับตัวลดลง 1-1.50 บาท/ลิตร จากราคาประกาศเดือนพฤษภาคมที่ 26.19 บาท/ลิตร ซึ่งเป็นการปรับราคาหลังจากคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. ปรับเปลี่ยนสูตรการจำหน่ายเอทานอลของผู้ค้ามาตรา 7 ใหม่ โดยประกาศเป็นรายเดือนให้อิงราคาส่วนผสมระหว่างกากน้ำตาลและมันสำปะหลังให้สะท้อนข้อเท็จจริง จากที่ใช้สูตรราคาที่ 62 ต่อ 38 ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อส่งเสริมการใช้มันสำปะหลัง แต่อย่างไรก็ตาม ปริมาณเฉลี่ยทั้งปีแล้ว ผู้ค้าน้ำมันจะต้องทำให้ได้ตามสูตร 62 ต่อ 38 โดยปัจจุบันราคาเอทานอลจากกากน้ำตาลมีราคาประมาณ 24 บาท/ลิตร ขณะที่มันสำปะหลังอยู่ที่ 26 บาท/ลิตร