นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.58/60 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.56/58 บาท/ดอลลาร์
"วันนี้เงินบาทไม่ค่อยขยับเท่าไรนัก เหมือนพยายามจะอ่อนค่าไปทำ high ที่ระดับ 30.63 แต่ยังไม่ทะลุ วันนี้คนจับตาตลาดหุ้นไทยที่ลงไปเยอะ อาจจะมี flow ไหลออกบ้าง จึงกดดันให้บาทอ่อนค่า" นักบริหารเงิน ระบุ
คืนนี้ นักลงทุนคงจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ(BOE) ซึ่งตลาดคาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำไว้ต่อไป เพียงแต่รอดูว่าจะมีถ้อยแถลงอะไรที่เป็นประเด็นหรือมีผลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของยุโรปในอนาคต
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.50-30.75 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.10/13 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 99.27/29 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3113/3115 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3092/3093 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,490.21 จุด ลดลง 32.45 จุด(-2.13%) มูลค่าการซื้อขาย 68,645.95 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 4,697.34 ลบ.(SET+MAI)
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 16 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 13,066 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,413.38 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้
- นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ชี้แจงภาวะตลาดหุ้นไทยหลังจากที่ตลาดหุ้นดาวโจนส์เมื่อคืนร่วงลงไปแรง โดยมองว่าตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่รับผลกระทบจากเงินทุนเคลื่อนย้าย แต่เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศลุ่มน้ำโขงยังสดใส ตลาดหุ้นไทยยังให้ผลตอบแทนที่ดี และพื้นฐานบริษัทจดทะเบียนของไทยยังแข็งแกร่ง จะเป็นตัวดึงดูดเม็ดเงินให้ไหลกลับเข้ามาลงทุนอย่างแน่นอน
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เล็งปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงจากปัจจุบันที่คาดว่าจะเติบโตได้ 5% ลงมาอยู่ที่ระดับ 4.0-4.5% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด หลังจากสัญญาณการบริโภคในประเทศเริ่มแผ่วลง และภาคการส่งออกยังไม่สามารถเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ อย่างไรก็ดี ม.หอการค้าไทย จะมีการประกาศตัวเลขที่ชัดเจนในวันที่ 27 มิ.ย.นี้
- นักเศรษฐศาสตร์จากเจพี มอร์แกน คาดการณ์เศรษฐกิจจีนในปีนี้จะขยายตัวอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ โดยได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีของจีนในปี 2556 เหลือ 7.6% จากก่อนหน้านี้ที่ระดับ 8.2% หลังจากจีนได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในเดือนเม.ย.ที่บ่งชี้ว่าอุปสงค์ภายในประเทศยังคงซบเซา ซึ่งส่งผลกระทบด้านลบต่อภาคบริการด้วย
- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดแทบจะทรงตัวในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนรอดูการประกาศนโยบายภายหลังการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ(BOE) ในคืนนี้
- นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ธนาคารกลางยุโรป(ECB) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ในการประชุมวันนี้ หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไป 0.25% จนเหลือแค่ 0.5% ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัวในอัตราเล็กน้อยถึงปานกลาง ระหว่างเดือนเม.ย.-กลางเดือนพ.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคที่อยู่อาศัยและการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้านการใช้จ่ายของผู้บริโภค
- ค่ำนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 มิ.ย.56 ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะลดลง 9,000 ราย มาสู่ระดับ 345,000 ราย
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (Insee) เผยอัตราว่างงานของฝรั่งเศสในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ พุ่งขึ้นแตะ 10.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่ปี 2541 หรือในรอบ 15 ปี เมื่อเทียบกับ 10.5% ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2555 โดยฝรั่งเศสยังคงเผชิญกับปัญหาการว่างงานอย่างรุนแรง แม้ว่าประธานาธิบดีของฝรั่งเศสจะมีเป้าหมายหลักในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว โดยให้คำมั่นที่จะลดอัตราว่างงานให้ได้ภายในปีนี้ก็ตาม