ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเม่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 97.21 เยน จากระดับของของวันพุธที่ 99.19 เยน และอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9297 ฟรังค์ จากระดับ 0.9417 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3246 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3087 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5607 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5402 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.9611 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9525 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรในระดับปัจจุบัน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 มิ.ย. ลดลง 11,000 ราย สู่ระดับ 346,000 ราย ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 345,000 ราย
ขณะที่สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นหลังจากอีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในการประชุมเมื่อวานนี้ สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยอีซีบีมีเป้าหมายที่จะพยุงเศรษฐกิจยูโรโซนให้รอดพ้นจากภาวะถดถอย
นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้แรงหนุนจากการที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมครั้งนี้ เพียงแต่กล่าวว่า อีซีบียังคงมีจุดยืนในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ตราบเท่าที่เห็นว่าจำเป็น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ลงมาอยู่ที่ระดับ 1.4% จากก่อนหน้าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.6%
อย่างไรก็ตาม นายดรากิอีซีบีได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของ 17 ประเทศในกลุ่มยูโรโซนในปีนี้ โดยคาดว่าจีดีพีของยูโรโซนในปีนี้จะหดตัวลง 0.6% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวลง 0.5% และยังได้ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ลงมาอยู่ที่ระดับ 1.4% จากก่อนหน้าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.6% เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ในวันศุกร์นี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าการจ้างงานเดือนพ.ค.น่าจะเพิ่มขึ้น 167,000-170,000 ตำแหน่งโดยประมาณ หลังจากเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 7.5%