โดยวงเงินดังกล่าวประมาณการจากการคาดการณ์อ้อยที่เข้าหีบจริงจำนวน 99.50 ล้านตัน คูณด้วยอัตราจ่ายเงินเพิ่มราคาอ้อยให้แก่ชาวไร่อ้อย 160 บาทต่อวัน ในอัตราดอเบี้ยผ่อนปรน MLR-0.75% หรือเท่ากับ 4.25% ต่อปี กำหนดชำระหนี้เสร็จสิ้นภายใน 14 เดือน นับตั้งแต่วันที่กู้คือเดือนพ.ค. 56- มิ.ย.57
"ตอนนี้ทยอยจ่ายไปแล้วรวมกว่า 8,200 ล้านบาท ที่เหลือคาดว่าจะจ่ายครบภายในกลางเดือนมิ.ย.นี้"นายชัยวัฒน์ กล่าว
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้เข้ามีส่วนร่วมสนับสนุนเงินกู้ให้กับกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อนำไปรักษาเสถียรภาพของระบบ ตั้งแต่ปีการผลิต 2541/2542 จนถึงปัจจุบันรวม 10 ครั้ง คิดเป็นวงเงินกู้รวม 80,826 ล้านบาท และที่ผ่านมากองทุนอ้อยฯก็สามารถชำระคืนหนี้ได้ตามกำหนด ทำให้ปัจจุบันกองทุนอ้อยฯมีหนี้คงค้างกับ ธ.ก.ส.ประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยกองทุนอ้อยฯจะทยอยชำระหนี้ที่เหลือเป็นรายงวดจนถึงปี 2563
"หนี้คงค้างที่กองทุนอ้อยฯเหลือกับ ธ.ก.ส.เป็นหนี้รายงวด ไม่ใช่หนี้เสีย เพราะที่ผ่านมากองทุนอ้อยฯ ได้ชำระตามงวดตรงเวลาไม่มีบิดพริ้ว ส่วนเงินกู้ก้อนใหม่กองทุนอ้อยฯจะชำระเสร็จสิ้นภายใน 14 เดือน"นายชัยวัฒน์ กล่าว
สำหรับการดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่ได้รับการเพิ่มทุนล้านที่ 3 จากรัฐบาลเมื่อเร็วๆนี้นั้น ธ.ก.ส.ได้ไห้การสนับสนุนกองทุนหมู่บ้านในการจัดเตรียมความพร้อมเพื่อสร้างมาตรการดำเนินงาน เช่น อบรมให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการแก่คณะกรรมการกองทุน ทั้งด้านสินเชื่อ เงินฝาก การระดมทุนจากสมาชิก การจัดทำบัญชี การตรวจบัญชี และการจัดทำแผนธุรกิจ รวมทั้งการจัดทำบัญชีด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ข้อมูลมีความแม่นยำรวดเร็ว โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ยังได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 62.5 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์และโปรแกรมระบบัญชีมอบให้แก่กองทุนหมู่บ้านที่ธ.ก.ส.ให้การสนับสนุน โดยคาดว่าภายใน 3-5 ปีจะพัฒนากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้เป็นสถาบันการเงินชุมชนที่มีคุณภาพได้ไม่น้อยกว่า 3,000 แห่ง และสนับสนุนเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์รวม 12,000 ชุด