แม้ว่า กลุ่มผู้ส่งออกสินค้ารายใหญ่ เช่น บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ และอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ ได้กลายมาเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจญี่ปุ่น แต่ล่าสุดมีรายงานจากภาครัฐว่า อุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์กำลังอยู่ในช่วงที่อ่อนแรงในการทำให้ประเทศเกินดุลการค้า
เพื่อแก้ไขปัญหานี้ จึงเกิดนโยบายพัฒนาศักยภาพการส่งออกของญี่ปุ่นขึ้น โดยอาศัยข้อตกลงการค้าเสรี เช่น แผนริเริ่ม Trans-Pacific Partnership จากสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยกเลิกภาษีศุลกากรทั้งหมด สำหรับเหล่าประเทศสมาชิก
รวมทั้งการผลักดันให้บริษัทต่างๆ เปลี่ยนโมเดลทางธุรกิจ ที่อิงกับความเชื่อที่ว่าสินค้าจะขายดีก็ต่อเมื่อสินค้านั้นมีฟังชั่นการทำงานดีเยี่ยม และมีคุณภาพสูง
รายงานระบุว่า "บริษัทต่างๆควรเริ่มเปลี่ยนโมเดลทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน"
ญี่ปุ่นประสบกับภาวะขาดดุลการค้าครั้งแรกในรอบ 31 ปี เมื่อปี 2554 ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย และการขาดแคลนชิ้นส่วนอุตสาหกรรมเพื่อป้อนโรงงานผลิต ภายหลังจากภัยแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิครั้งใหญ่เมื่อเดือน มี.ค. ปีดังกล่าว ที่ยังส่งผลให้เกิดวิกฤติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในเมืองฟุกุชิมาอีกด้วย
ในปี 2555 ยอดขาดดุลการค้ามีมูลค่าสูงถึง 6.9 ล้านล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน