ในวันศุกร์ (7 มิ.ย.) เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 5 เดือนที่ 30.66 ก่อนจะกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 30.62 เทียบกับระดับ 30.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (31 พ.ค.)
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (10-14 มิ.ย.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 30.30-30.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องจับตาการตอบรับของตลาดต่อตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ รวมถึงสัญญาณการเคลื่อนย้ายเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนมิ.ย. ยอดค้าปลีก ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีราคาผู้ผลิต งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนพ.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจและภาคค้าส่งเดือนเม.ย. ข้อมูลดุลบัญชีเดินสะพัดประจำไตรมาส 1/2556 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดอาจจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีนเดือนพ.ค. และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (10-11 มิ.ย.) ด้วยเช่นกัน