สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บัญชีรายได้ ซึ่งเป็นมาตรวัดเม็ดเงินที่ญี่ปุ่นได้รับจากการลงทุนต่างประเทศนั้น มียอดเกินดุลที่ทำสถิติรายเดือนสูงสุด 2.12 ล้านล้านเยนในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 51.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการอ่อนค่าของเงินเยน ซึ่งทำให้รายได้จากการลงทุนในต่างประเทศคิดเป็นตัวเงินเพิ่มขึ้น มูลค่าการนำเข้าเดือนเม.ย.ขยายตัว 9% สู่ระดับ 5.272 แสนล้านเยน เนื่องจากความต้องการเชื้อเพลิงแร่ธาตุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การส่งออกในภาคยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนการส่งออกในภาพรวมสูงขึ้น 2.7% สู่ระดับ 1.454 แสนล้านเยน
เงินเยนที่อ่อนดันต้นทุนด้านการนำเข้าให้สูงขึ้นในช่วงที่ภาคสาธารณูปโภคต้องการก๊าซธรรมชาติและน้ำมันเพิ่มเพื่อใช้ผลิตพลังงานเชื้อจากเพลิงฟอสซิล ภายหลังญี่ปุ่นระงับการดำเนินกิจการของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ หลังเกิดวิกฤตโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่โรงงานฟุกุชิมะไดอิจิจากเหตุการณ์ซึนามิและแผ่นดินไหวปี 2554