เมื่อวานนี้ (9 มิ.ย.) สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค.ของจีนขยายตัว 2.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลงจากเดือนเม.ย.ที่ขยายตัว 2.4%
ขณะที่ผลผลิตมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรมจีนเดือนพ.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 9.2% เมื่อเทียบรายปี ลดลงจากเดือนเม.ย.ซึ่งขยายตัว 9.3%
การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในเขตเมืองของจีนในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค.เพิ่มขึ้น 20.4% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 13.12 ล้านล้านหยวน ( 2.13 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ)
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนพ.ค.ขยายตัวลดลง 0.2% จากช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้
ตัวเลขเหล่านี้ สำนักข่าวต่างประเทศมองว่า จะกดดันประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง เพื่อที่จะกระตุ้นการขยายตัวในช่วงที่เข้ามารับตำแหน่งได่ไม่ถึง 3 เดือน หลังจากที่การขยายตัวในไตรมาสแรกนั้นชะลอตัวลงอย่างที่สวนทางกับการคาดการณ์ โดยตัวเลจเหล่านี้อาจจะทำให้มีการผ่อนปรนนโยบายเงินตราหรืออนุมัติงบประมาณใช้จ่ายเพิ่มเติม ขณะที่รัฐบาลเองก็มีปัจจัยจำกัดทั้งในเรื่องราคาบ้านที่ปรับตัวสูงขึ้น ความเสี่ยงด้านการเงิน และภาวะการผลิตที่สูงจนเกินไป