เงินบาทเปิด 30.76/78 แนวโน้มยังอ่อนค่า หลังดอลล์แข็งรับ S&P ปรับเครดิต

สำหรับแนวโน้มการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้น่าจะยังอ่อนค่าได้ต่อ ซึ่งเป็นไปตามทิศทางของค่าเงินในภูมิภาค ประกอบกับเมื่อคืนนี้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับเพิ่มแนวโน้มความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ จึงทำให้ดอลลาร์ปรับตัวดีขึ้น

"บาทวันนี้คงอ่อนค่าต่อตามสกุลเงินในภูมิภาค ประกอบกับเมื่อคืน S&P ปรับเครดิตของสหรัฐฯ จาก negative เป็น stable จึงทำให้วันนี้ดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้น" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.75-30.90 บาท/ดอลลาร์

• ปัจจัยสำคัญ

• เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.85/88 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเย็นวานนี้ที่ 98.68/70 เยน/ดอลลาร์
• ส่วนเงินยูโร เช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.3250/3252 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเย็นวานนี้ที่ 1.3220/3223 ดอลลาร์/ยูโร
• อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 30.7170 บาท/ดอลลาร์
• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จ่อปรับลดจีดีพีต่ำกว่า 5.1% ประกาศเป็นทางการในรายงานแนวโน้มนโยบายการเงิน 19 ก.ค. คล้อยหลัง กนง.ประชุม 10 ก.ค. เผยที่มาการบริโภคการลงทุนในประเทศแผ่ว เศรษฐกิจจีนชะลอส่อกระทบส่งออกไทย ยันเงินไหลออกยังไม่น่าเป็นห่วง-เงินบาทอ่อนค่ายังเกาะกลุ่มภูมิภาค
• กระทรวงการคลังร่วมกับสถาบันการเงินของรัฐ 9 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บสท.) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดตั้งสภาสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อให้สถาบันการเงินของรัฐได้ดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และช่วยลดต้นทุน รวมทั้งเป็นประโยชน์กับประชาชน
• สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน หลัง S&P ปรับเพิ่มแนวโน้มความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ จากแนวโน้มเชิงลบ(Negative) มาสู่ระดับมีเสถียรภาพ(Stable) นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรในเวลาที่เร็วกว่ากำหนด
• ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และการแถลงข่าวของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจ ในวันนี้
• นักลงทุนจับตาดูคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนเม.ย. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกสินค้าภาคค้าส่งจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. และคาดว่ายอดค้าส่งจะลดลง 0.1% ในเดือนเม.ย.
• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้(10 มิ.ย.) หลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอาจจะส่งผลให้ความต้องการพลังงานลดลงด้วย โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 26 เซนต์ ปิดที่ 95.77 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 95.19-96.25 ดอลลาร์ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 61 เซนต์ ปิดที่ 103.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาดของจีนได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,386 ดอลลาร์/ออนซ์