นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.93/95 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับเมื่อเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.94/97 บาท/ดอลลาร์
โดยล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. เงินบาทได้อ่อนค่าไปแตะระดับ 31.03/05 บาท/ดอลลาร์แล้ว ซึ่งถือว่าอ่อนค่าสุดในรอบ 8 เดือนนับตั้งแต่ต.ค.55
"น่าจะอ่อนค่าลงไปมากสุดตั้งแต่ต้นต.ค.ปีที่แล้วที่บาทไปแตะระดับนี้ วันนี้บาทอ่อนไปเยอะแล้ว ต้องดูปัจจัยจากตลาดหุ้นด้วย เพราะหุ้นไทยก็ลงค่อนข้างแรง บาทอาจอ่อนได้อีกเล็กน้อยแต่น่าจะใกล้ๆ จบแล้ว" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.90-31.08 บาท/ดอลลาร์ ขณะเดียวกันต้องติดตามความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค รวมทั้งทิศทางค่าเงินดอลลาร์ด้วยเช่นกัน
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 31.1175 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.23334%
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 96.53/54 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเย็นวานนี้ที่ระดับ 96.96/98 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3312/3313 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3279/3285 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 30.8910 บาท/ดอลลาร์
- นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลั่นไม่มีฟองสบู่ภาคอสังหาริมทรัพย์หลังสัญญาณเศรษฐกิจด้านอื่นเริ่มมีแนวโน้มชะลอลง ส่วนทิศทางดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับธนาคารพาณิชย์ที่ต้องพิจารณาต้นทุนและปัจจัยทางธุรกิจ
- แบงก์พาณิชย์ แข่งออกฝากชูดอกเบี้ยสูงจูงใจทั้งระยะสั้น-กลาง หวังรักษาฐานช่วงดอกเบี้ยขาลง “กรุงเทพ" ส่งเงินฝากหลายประเภทเอาใจให้ลูกค้าเลือกได้ตามใจด้าน"ทิสโก้" ส่งเงินฝากประจำ 8 เดือน ชูดอกเบี้ยสูง 3.25%
- นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าอยู่ในระดับที่ผู้ประกอบการส่งออกกลับมาแข่งขันได้ในขณะนี้ ถือเป็นปัจจัยที่ดี ซึ่งปัญหาค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมาถือเป็นอุปสรรคต่อภาคการส่งออกในหลายอุตสาหกรรมอย่างมาก ประกอบกับเกิดการแข่งขันในหลายกลุ่มประเทศค่อนข้างสูง ซึ่งหลายฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน ทั้งภาครัฐและเอกชนฝ่าฟันอุปสรรคด้านการส่งออกและจะต้องช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ในการแสวงหาตลาดในต่างประเทศจะช่วยชดเชยการส่งออกของไทยในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยได้
- กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีการติดตามค่าเงินบาทต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบันแม้ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลงแล้ว แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ว่าจะกลับมาแข็งค่าอีกหรือไม่ เนื่องจากส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกประเทศที่ควบคุมไม่ได้ อาทิ ปัจจัยเศรษฐกิจโลกทั้งในสหรัฐ อเมริกา และกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(11 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษในการประชุมล่าสุด ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่คาดว่า BOJ อาจอัดฉีดเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำให้กับธนาคารพาณิชย์ หรือออกมาตรการใหม่ๆเพิ่มเติม เพื่อสกัดการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยระยะยาว
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานปรับตัวลดลงในเดือนเม.ย. ขณะเดียวกันนักลงทุนก็วิตกกับท่าทีของธนาคารกลางหลายแห่งที่ลังเลว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมดีหรือไม่
- สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ(NFIB) รายงานความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนพ.ค. สู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี เนื่องจากเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กมีมุมมองที่สดใสขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ไม่ได้ออกมาตรการเพิ่มเติม นอกจากนี้สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่ากลุ่มโอเปคปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนพ.ค. โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 95.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 99 เซนต์ หรือ 0.95% ปิดที่ 102.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่นไม่ได้ออกมาตรกรกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 9 ดอลลาร์ หรือ 0.65% ปิดที่ 1,377 ดอลลาร์/ออนซ์