ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วง เหตุนักลงทุนเทขายหลังข้อมูลศก.สหรัฐสดใส

ข่าวต่างประเทศ Friday June 14, 2013 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงยอดค้าปลีกและสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ที่ปลอดภัย รวมถึงดอลลาร์ และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงหุ้น

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 94.86 เยน จากระดับของวันพุธที่ 95.69 เยน และขยับลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9218 ฟรังค์ จากระดับ 0.9221 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3345 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3329 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5696 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5576 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.9605 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9488 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากสหรับเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 มิ.ย. ลดลง 12,000 ราย สู่ระดับ 334,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 345,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 346,000 ราย สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้น 0.6% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% เนื่องจากภาคครัวเรือนเพิ่มการใช้จ่ายในการซื้อยานยนต์และสินค้าประเภทอื่นๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันหลังจากธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทั่วโลกลงสู่ระดับ 2.2% ในปีนี้ จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมาว่าจะขยายตัว 2.4% เนื่องจากเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ รวมถึงจีนและบราซิล ชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้าอย่างใกล้ชิด หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดได้ส่งสัญญาณในระหว่างการแถลงต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสว่า การลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ อาจจะมีขึ้นในการประชุมในอีกไม่กี่ครั้งข้างหน้า ซึ่งจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจด้านต่างๆ รวมถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคและข้อมูลด้านการจ้างงานของสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ