“หลังจากทาง AFET ได้ยืนยันว่ามาตรการดังกล่าวสามารถกระทำได้โดยไม่ผิดกฎหมายและไม่ถือเป็นการแทรกแซงราคายางแต่อย่างใด แต่เป็นการซื้อขายผ่านตลาดล่วงหน้า โดยหากมีผู้ขายจากต่างชาติเข้ามาขายยางพารา AFET ก็สามารถควบคุมการซื้อขายได้ และคาดว่าจะสามารถรับซื้อยางพาราได้ประมาณ 42,000 ตัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถปรับราคายางพาราให้เข้าสู่เสถียรภาพให้ได้ที่กิโลกรัมละ 110 บาท โดยจะเร่งดำเนินการในดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมภายในเดือนกรกฎาคมนี้" นายยุทธพงศ์ กล่าว
สำหรับ 7 หน่วยงานที่เข้าร่วมลงทุนในครั้งนี้ ได้แก่ องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) บริษัท ร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ (IRCo) บมจ. ไทยฮั้วยางพารา (STHAI) บมจ. ศรีตรัง แอโกร อินดัสทรี (STA) บมจ. ไทย รับเบอร์ลาเท็คซ์ คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) (TRUBB) บริษัท เซาท์แลนด์ รับเบอร์ จำกัด และ บริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด