BBL ชูบทบาทศก.จีนสำคัญต่อโลกมากขึ้น ทูตฯเตือนไทยพัฒนารับโอกาสจากจีน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 14, 2013 17:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ(BBL)กล่าวในการเสวนาหัวข้อ"เศรษฐกิจจีน : นัยสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกและโอกาสในการลงทุน"ว่า เศรษฐกิจจีนเริ่มมีบทบาทต่อเศรษฐกิจโลกมากขึ้น เนื่องจากมีจำนวนประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน และการเริ่มเปิดประเทศมากขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมเดินทางท่องเที่ยวนอกประเทศมากขึ้น ส่งผลให้มีการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวสูงขึ้น รวมทั้งจีนยังเร่งผลักดันให้เงินสกุลหยวนเป็นสกุลหลักในการค้าขายสินค้าทั้งในภูมิภาคเอเชียและโลก ดังนั้นจึงเชื่อว่า เศรษฐกิจจีนจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 55 เศรษฐกิจจีนขยายตัวถึงร้อยละ 7.8 คิดเป็นมูลค่า 52 ล้านล้านหยวน

ด้านนาย ก่วน มู่ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้จีนได้ขยับขึ้นเป็นประเทศที่มีรายได้อยู่ในระดับปานกลาง จากเดิมที่เป็นประเทศที่มีรายได้น้อย โดยเศรษฐกิจจีนไตรมาสแรกขยายตัวสูงถึง 7.7 และคาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เพราะขณะนี้จีนมีแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจจีนใหม่ มีการยกระดับภาคอุตสาหกรรมและปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าภายใน 5 ปี ข้างหน้าจีนจะมีการนำเข้าสินค้ามากกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

และนักท่องเที่ยวจีนยังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยเพิ่มขึ้นเป็น 3.5 ล้านคน จากปีก่อนที่มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทย 1.2 ล้านคน โดยในเดือนเมษายนที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาไทยแล้ว 1.5 ล้านคน ดังนั้นจึงเชื่อว่าความร่วมมือระหว่างไทยกับจีนจะต้องมีมากขึ้น โดยล่าสุดได้มีการผลักดันให้มีการลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ของไทยให้เชื่อมต่อกับภูมิภาค นอกจากนี้จีนยังพร้อมผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตไปพร้อมๆ กับเศรษฐกิจจีนด้วย

อย่างไรก็ตาม นายก่วน มู่ ยังกล่าวอีกว่า ไม่เห็นด้วยกับหลายประเทศที่กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจในประเทศแล้วพยายามที่จะผลักภาระเศรษฐกิจของตนเองไปยังประเทศอื่น เนื่องจากเห็นว่าไม่ถูกต้อง ดังนั้นจีนจึงตระหนักถึงปัญหาเศรษฐกิจภายในที่เกิดขึ้นโดยจะต้องมีการแก้ไขและต้องไม่ผลักภาระไปยังประเทศอื่นๆ ซึ่งหากสามารถทำได้อย่างเป็นรูปธรรม เชื่อว่า จะทำให้ทุกประเทศมีพลังเศรษฐกิจมากขึ้น

ด้านนายหลิว เจี้ยนเฝิง อดีตรัฐมนตรีฝ่ายบริหารกระทรวงการบินพลเรือน กล่าวว่า ขณะนี้จีนมีการพัฒนาด้านการบินอย่างรวดเร็ว เพราะอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของโลก รวมทั้งยังเป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพราะเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวในอาเซียนเข้ามาท่องเที่ยวในจีนเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ จีนได้มีการนำเข้าเครื่องบินมากกว่า 1 หมื่นลำ และมีการสร้างสนามบินเพิ่มอีกกว่า 100 แห่ง เพราะเชื่อว่าระบบการขนส่งทางอากาศจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจีนให้ขยายตัวได้มากขึ้นเนื่องจากจะช่วยเชื่อมโยงทั้งเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และระบบการขนส่งทั้งสินค้าและประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยขณะนี้มีนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจใช้บริการสนามบินใหม่ๆของจีนกว่า 1 ล้านคน ดังนั้นจีนจึงให้ความสำคัญเกี่ยวกับการขนส่งทางอากาศมากขึ้น และขณะนี้มีบุคคลากรจีนที่เข้าสู่การบริการด้านการบินพลเรือนแล้ว 1.3 ล้านคน นอกจากนี้จีนยังได้ผ่อนคลายกฎระเบียบให้กับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจีนมากขึ้นอีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ