รายงานของกระทรงการคลังสหรัฐระบุว่า จีน ซึ่งเป็นผู้ถือครองหลักทรัพย์รายใหญ่สุดในสหรัฐ ได้ปรับลดการถือครองหลักทรัพย์ลงสู่ระดับ 1.2649 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. จากระดับของเดือนมี.ค.ที่ 1.2703 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ถือครองหลักทรัพย์รายใหญ่อันดับสองในสหรัฐ ลดการถือครองหลักทรัพย์ลงสู่ระดับ 1.1003 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. จากระดับของเดือนมี.ค.ที่ 1.1143 ล้านล้านดอลลาร์
รายงานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าต่างชาติเริ่มขาดความเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยรายงานล่าสุดระบุว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐในเดือนพ.ค.ย่ำฐานทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกับเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตขยับลงเล็กน้อยสู่ระดับ 77.6% จากระดับที่มีการทบทวนที่ 77.7% ในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐยังไม่ฟื้นตัวมากนัก