"วันนี้เงินบาทวิ่งไปวิ่งมาเปิดตอนเช้า 30.54/56 แล้วก็ไป High ที่ 30.72/74 แล้วกลับมาปิดที่ 30.64/66 ถือว่าไม่ได้วิ่งกว้างมากอยู่ในกรอบแคบๆ บวกขึ้นมาแค่ 5 จุด ถือว่าผันผวนตามตลาดหุ้นเพราะช่วงแรกตลาดหุ้นลบแล้วก็กลายเป็นปิดบวก" นักบริหารเงิน กล่าว
ทั้งนี้ เชื่อว่าขณะนี้ทุกคนรอคอยผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีการประชุมกำหนดนโยบายการเงินวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ ดังนั้น คาดว่าระยะนี้เงินบาทน่าจะมีทิศทางแกว่งในกรอบแคบๆต่อไป
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 94.85/89 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 94.67/69 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3340/3344 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.3336/3338 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,471.04 จุด เพิ่มขึ้น 5.77 จุด, +0.39% มูลค่าการซื้อขาย 43,475.27 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 489.25 ลบ.(SET+MAI)
- นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ธปท.มีความพร้อมในการรับมือหากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน แต่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าเฟดจะยุติมาตรการ QE ลงเมื่อใด ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศคงต้องค่อย ๆ มีการปรับเปลี่ยน ไม่ใช่ปรับแบบกระโดดไป-มา เพราะจะกระทบกับความเชื่อมั่นในธนาคารกลาง
ส่วนในที่ผ่านมาที่เกิดภาวะเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นไทยนั้น สภาพคล่องส่วนเกินได้ลดลงจากระดับ 4.9-5 ล้านล้านบาท มาอยู่ที่ระดับ 4.7 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี จากในช่วงที่เศรษฐกิจมีความผันผวนมากในระยะนี้ นักลงทุนควรปรับพอร์ตการลงทุนให้มีความเหมาะสม ขณะที่ ธปท.เองเตรียมพิจารณาโอกาสการลงทุนในพันธบัตรสกุลเงินหยวน หรือ ติ่มซำบอนด์เพิ่มเติมหากเห็นว่าให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะช่วงกลางของกรอบ 94 เยนในช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว เนื่องจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้กระตุ้นความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุน แต่การปรับตัวขาขึ้นได้ถูกสกัดไว้ด้วยความระมัดระวังก่อนทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
ในช่วงเที่ยงวันนี้ ตามเวลาโตเกียว สกุลเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ระดับ 94.57-94.59 เยน เทียบกับ 94.03-94.13 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 95.10-95.12 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17.00 น.ของวันศุกร์
สกุลเงินยูโรเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.3329-1.3331 ดอลลาร์สหรัฐ และ 126.06-126.09 เยน เทียบกับ 1.3339-1.3349 ดอลลาร์สหรัฐ และ 125.67-125.77 เยนในตลาดนิวยอร์ก และ 1.3323-1.3325 ดอลลาร์สหรัฐ และ 126.70-126.74 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเย็นวันศุกร์
- ธนาคารกลางอินเดียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไว้ที่ระดับ 7.25% โดยระบุว่าการร่วงลงของค่าเงินรูปีในช่วงที่ผ่านมาเป็นเหตุผลสำคัญต่อการตัดสินใจดังกล่าว รูปีที่อ่อนค่าก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ซึ่งได้ชะลอลงในช่วงหลายเดือนมานี้ โดยรูปีเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในเอเชียในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
- รายงานจากมหาวิทยาลัยเหรินหมินและบริษัทการจัดการสินเชื่อไชน่า เฉิงซิน ระบุว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนคาดว่าจะขยายตัว 8.1% ในปีนี้แม้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอย่างไม่คาดคิดในช่วงครึ่งแรกของปีนี้